“พรรคภูมิใจไทย” วอน “รมว.คมนาคม” ไตร่ตรอง สานต่อนโยบาย “แลนด์บริดจ์” พร้อม ยืนยันเดินหน้า ผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ต่อเนื่อง
วันที่ 20 ก.ย.2566 นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมด้วย สส.ภาคใต้ฝั่งอันดามัน และ สส.ฝั่งอ่าวไทย ออกมาแถลงข่าว เรื่องโครงการแลนด์บริดจ์หลังจากการที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า จะไม่สานต่อโครงการ จึงอยากขอความกรุณาจากนายสุริยะ ให้มีการทบทวน พิจารณาไตร่ตรองเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง
เนื่องจากเห็นว่าอาจจะเป็นการสูญเสียผลประโยชน์ในภาพรวมของประเทศ เพราะมีความเชื่อมโยงในหลายๆ โครงการ ทั้งการเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด การขยายท่าเทียบเรือ การตัดถนนมอเตอร์เวย์ รวมถึงรถไฟเพื่อบรรทุกสินค้า ไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะ จ.ชุมพร หรือ จ.ระนองเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจฐานราก ที่จะก่อให้เกิดรายได้จำนวนมาก ทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตร รวมถึงการท่องเที่ยวด้วย
“เรารู้สึกเสียดาย ถ้าอยู่ๆ นายสุริยะ จะยกเลิกไป อยากให้มองเห็นความสำเร็จเป็นเป้าหมายของรัฐบาล ไม่อยากให้มองเห็นเป็นอุปสรรคของเป้าหมายรัฐบาลที่จะมีตัดสินตามคำแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรี ซี่งบอกว่า รัฐบาลชุดนี้จะต้องทำได้ไม่มีเหตุผลปฏิเสธว่าทำไม่ได้ หากเป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประโยชน์ของประชาชน ไม่อยากให้มีข่าวออกไปว่า รัฐบาลลดโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อชดเชยในนโยบายบางเรื่องแทน” นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังแถลงข่าวถึง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง โดยยืนยันที่จะติดตามและผลักดัน พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เหมือนเดิม ด้วยเหตุผลว่า กัญชาถูกปลดออกจากยาเสพติดให้โทษแล้ว ซึ่งเป็นการดำเนินการทางการแพทย์ และการวิจัยเท่านั้น ไม่มีนโยบายเปิดเสรี นันทนาการหรือสันทนาการ แม้จะมีการโจมตีและด้อยค่านโยบายกัญชาที่ทำให้ถูกตีตกไปในสมัยรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้มีกลุ่มบุคคล บิดเบือนทำให้ประชาชนสับสน
เมื่อไม่นานมานี้ ศาลปกครองสูงสุด ได้พิจารณาของร้องของหมอกลุ่มหนึ่งยื่นฟ้อง รมว.สธ. สมัยนั้น ที่ปลดล็อกกัญชา ออกมาเพื่อการใช้ประโยชน์ ศาลยกคำร้อง เพราะเห็นว่า ผู้ร้องไม่ได้รับความเสียหายจากนโยบาย แต่เมื่ออ่านรายละเอียดจะพบว่าศาล ให้ความเห็นอีกว่า สิ่งที่ผู้ร้องกล่าวหากัญชา ว่าใช้กันอย่างแพร่หลาย เกิดผลกระทบเชิงลบทางสังคม ล้วนแล้วแต่เป็นการคาดเดา ถึงสิ่งที่ยังไม่เกิด
พรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า พรรคจะผลักดันพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ในสมัยนี้ต่อไป โดยจะเป็นไปตามร่างเดิม 94 มาตรา ที่เคยได้มีความเห็นจากทุกพรรคทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล อีกทั้ง ยังเห็นตรงกันกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่จะนำเสนอเรื่องนี้ในรัฐบาลสมัยนี้ด้วย
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าจากข้อมูลวิจัยชี้ว่าเมื่อกัญชาถูกปลดล็อกจากยาเสพติดแล้ว มูลค่าของตลาดกัญชาเติบโตขึ้น 2.1 หมื่นล้านบาท สอดคล้องกับภาคเอกชน เท่าที่ตนได้ทำการสำรวจมามี 21 บริษัทที่ลงทุนไปแล้วในกัญชา แต่ส่วนของกัญชงที่เป็นตลาดใหญ่กว่า โดยเฉพาะในฝั่งอุตสาหกรรม ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสกัดสาร CBD มาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ และแทบจะไม่มีสาร THC อยู่เลยนั้น
“วันนี้ไม่มีโรงงานใดที่สามารถผลิตสาร THC ได้เลยแม้แต่โรงงานเดียว เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายให้เปิด เว้นแต่จะทำร่วมกับภาครัฐ โดยเราได้แยกกัญชงออก เพื่อไม่ให้มีการสกัดสาร THC เกิน 0.02% เป็นจุดแข็งที่ฝ่ายนิติบัญญัติมีความรอบคอบพอ ที่จะควบคุมการออกกฎหมาย และไม่ทำให้กัญชาหลุดพ้นออกไปจนเกิดปัญหา” นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว.
