“เพิ่มพูน ชิดชอบ” รมว.แรงงาน ประชุมคณะผู้บริหาร มอบนโยบาย “ทักษะดี มีงานทำ หลักประกันสังคมเด่น เน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” ชูกองทุนประกันสังคม โปร่งใส มีคุณภาพ
วันที่ 14 กันยายน 2566 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายปี 2567 เพื่อขับเคลื่อนงานกระทรวงแรงงาน โดยมี นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ภารกิจของกระทรวงแรงงาน มีความสำคัญอย่างมากในการดูแลพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้ที่มั่นคง ซึ่งภาคแรงงานเองจะต้องเข้มแข็ง มีทักษะฝีมือ มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งมีนโยบาย และ งานหลักสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประการแรก คือ การขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้านแรงงาน ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้แถลงไว้ต่อสภา โดยจะต้องนำนโยบายตรงส่วนนี้ไปสู่การปฏิบัติให้เป็นผลสำเร็จ
นอกจากนี้แล้วยังมีนโยบายสำคัญ ที่จะต้องเร่งผลักดันดำเนินการในปี 2567 ภายใต้แนวคิด “ทักษะดี มีงานทำ หลักประกันสังคมเด่น เน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” ได้แก่ 1. พัฒนาทักษะฝีมือแรงงานชั้นสูงเพื่อรองรับการจ่ายค่าจ้างตามความสามารถการปฏิบัติงาน 2. Up-Skill ทักษะฝีมือแรงงานเพื่อการมีงานทำรองรับเศรษฐกิจใหม่ (Up – Skill for More Earn) 3. ใช้ระบบ One Stop Service บริหารการทำงานของแรงงานต่างด้าวครบจบที่จุดเดียว 4. เพิ่มการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ 100,000 อัตรา ให้สำเร็จภายในปี 2567 และด้านหลักประกันทางสังคมเด่น 5. ลดหนี้ เติมทุน สร้างสุขแรงงาน (Micro Finance) 6.กองทุนมั่นคง แรงงานมั่งคั่ง ประกันสังคมยั่งยืน 7.ประกันสังคมยุคใหม่ สร้างความมั่นคง เพิ่มความมั่นใจ (Best E-Service) และ 8. รวมไปถึงการสร้างรากฐานเศรษฐกิจ พัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยการคุ้มครองแรงงาน
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกองทุนประกันสังคมต้องเน้นการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และมีความยั่งยืน ผู้ประกันตนต้องได้รับการบริการด้านการรักษาพยาบาลครบทุกด้านและดีขึ้นกว่าเดิม โดยนำระบบ E-Claim เข้ามาใช้ ขณะที่การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวจะเน้นจัดทำทะเบียนควบคุมและบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมอบหมายให้ผู้บริหารผลักดันให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว และมอบหมายให้ผู้บริหารทุกหน่วยงานประสานความร่วมมือผนึกกำลังกับ 4 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย ศึกษาธิการ อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และแรงงาน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายแบบบูรณาการ
นายพิพัฒน์ ยังกล่าวภายหลังการประชุมมอบนโยบายว่า การขับเคลื่อนนโยบายแบบบูรณาการนั้น เน้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อยกฐานะกระทรวงแรงงานให้เป็นกระทรวงเศรษฐกิจโดยสมบูรณ์แบบ และมอบหมายให้ปลัดกระทรวงแรงงาน เร่งหารือสำนักงานประกันสังคมเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ ของนโยบายกู้ยืมเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพื่อพัฒนาและยกระดับให้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
“ประเทศไทยกำลังขาดแคลนแรงงานในระดับล่าง การพัฒนาทักษะฝีมือนอกจากแรงงานไทยแล้ว กระทรวงแรงงานจะเข้าไปพัฒนาในส่วนของแรงงานเพื่อนบ้านเพื่อดึงดูดแรงงานที่มีคุณภาพ อีกทั้งเรามีแนวคิดให้งานทำแก่ผู้ลี้ภัยให้เขามีรายได้ตามหลักสิทธิมนุษยธรรมด้วย ” นายพิพัฒน์ กล่าวในที่สุด