“ผู้การเต่า” เผยเบื้องหลัง คำสั่ง “กำนันนก” ให้ลูกน้องปลิดชีพ “สารวัตรแบงค์”

ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เผยเบื้องหลังคำสั่ง “กำนันนก” สั่ง “หน่อง หมั่นมาก” ลูกน้องคนสนิท รัวกระสุนปลิดชีพ “สารวัตรแบงค์” มาจาก เคลียร์น้ำหนักบรรทุกรถขนส่งกว่า100คัน ไม่ลงตัว แถมยังเสียหน้า ดวลสุรากลางงานเลี้ยง ลั่นทวงคืนความยุติธรรมให้แน่นอน

จากกรณีนายธนัญชัย หรือ หน่อง หมั่นมาก คนสนิท กำนันนก หรือ นายประวีณ จันทร์คล้าย ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ จ.462/2556 ลง 7 ก.ย. 2566 ที่ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. จนเสียชีวิต แต่คนร้ายต่อสู้ขัดขวาง ชักอาวุธปืนยิงใส่ต่อสู้จึงเกิดการยิงปะทะ ก่อนพบร่างนายธนัญชัย นอนสิ้นลมหายใจอยู่บริเวณข้างรถยนต์กระบะตัวเอง ขณะที่ กำนันนก ยังปฏิเสธ อ้างลูกน้องลงมือยิงเอง โดยขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในคุกนั้น

เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของสารวัตรศิวกร เดินทางมาร่วมพิธี โดยเปิดเผยว่า สำหรับกำหนดการวันนี้ จะมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ

สำหรับสารวัตรศิวกร ถือว่าได้ทำหน้าที่ของตัวเองจนนาทีสุดท้าย การที่ผู้บังคับบัญชาชวนไปพูดคุย ยังถือเป็นหน้าที่ราชการ และยังอยู่พื้นที่ ซึ่งผู้บังคับบัญชาทุกคนก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่จะทำให้ได้ คือ การทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ และคืนความยุติธรรมให้ข้าราชการตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยตนได้บอกกับสารวัตรศิว หลังถอดเครื่องช่วยหายใจ ตนได้เข้าไปลูบหัวแล้วบอกว่า พี่ๆ น้องๆ จะทวงความยุติธรรมให้ ซึ่งวันนี้ทำได้แล้วส่วนหนึ่ง แต่หนังเรื่องนี้ก็ยังไม่จบ

ทั้งนี้ ตนได้รับทราบมาว่า ก่อนจะเกิดเหตุ กำนันนก ได้เคยมาพูดคุยกับสารวัตรศิว เพื่อขอเคลียร์เรื่องการบรรทุกน้ำหนักเกิน หรือ ค่าแบก ของกิจการตนเอง เพราะที่ผ่านมา ตำรวจทางหลวงเข้มงวดมาก กำนันนก จึงต้องการจะขอให้มีการผ่อนปรนให้กับรถของกิจการตนเองกว่า 100 คัน โดยเสนอผลประโยชน์ให้ แต่สารวัตรศิวไม่รับ หลังจากนั้น ก็มีการมาพูดคุยเรื่องขอตำแหน่งอีก ก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือ จึงเกิดความไม่พอใจอยู่แล้ว 2 เรื่อง พอมาวันเกิดเหตุมีการท้าดื่มสุรากัน แล้ว กำนันนก กินสู้ไม่ได้ ก็เกิดการเสียหน้า ประกอบกับเรื่องเดิมที่ไม่พอใจอยู่แล้ว จึงสั่งการไป

สำหรับประเด็นเรื่องการออกหมายจับตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงเพิ่มเติมนั้น ตนก็ได้รับทราบมาบ้าง แต่ไม่ขอก้าวก่ายในรายละเอียด ให้เป็นอำนาจของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ยืนยันได้ว่า เรื่องนี้ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สั่งการอย่างเด็ดขาดว่า ไม่ว่าใครที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ จะมากหรือน้อย ก็ให้ว่าไปตามข้อเท็จจริง หากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ต้องมีการดำเนินคดีและโยกย้าย

ส่วนสำนวนคดีของตำรวจทั้ง 6 นาย ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ส่วนกลางนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะส่งสำนวนที่เกี่ยวข้องกับการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไปที่ ป.ป.ช. ซึ่ง ป.ป.ช. จะเป็นผู้พิจารณาว่า จะทำคดีเองหรือส่งให้ บก.ปปป. ทำ ส่วนกรณีที่วานนี้ (10 ก.ย. 66) มีเพจเฟซบุ๊กชื่อ ซุ้มกำนันนก โพสต์ข้อความว่า ถ้าตำรวจยังไม่ปล่อยตัวกำนันนก ให้รอดูข่าวใหญ่ในรอบ 100 ปี พร้อมติดแฮชแท็ก #รวมพลชิงตัวกำนันนก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางเรือนจำยังไม่ได้ประสานมา แต่ได้สั่งการให้ บก.ปอท. ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนว่าเป็นการโพสต์เพื่อสร้างสถานการณ์ หรือเพียงต้องการยอดวิว ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการข่าวว่าจะมีการชิงตัว กำนันนก จริง แต่ถ้ามีใครทะลึ่ง ก็เดี๋ยวว่ากัน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่า เรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบในทุกมิติ โดยตนจะไปพบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ป.ป.ช./ป.ป.ท./ปปง./บก.ปปป. รวมถึงกรมสรรพากรด้วย ในการตรวจสอบกำนันนก เพราะการที่ทำให้ตำรวจสามารถเปลี่ยนเลือดสีเลือดหมูไปเป็นเลือดเสียได้ ทำให้ตำรวจปันใจทรยศไป โดยไม่คิดถึงศักดิ์ศรีครึ่งชีวิตที่มีมาได้ แปลว่ากำนันนกต้องมีของดี ไม่เช่นนั้น คงไม่สั่งให้ใครยิงสารวัตรได้ เพราะไม่เคยมีกรณีที่ตำรวจถูกยิงต่อหน้าตำรวจมาก่อน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ย้ำทิ้งท้ายว่า ได้มีการประชุมชี้แจงสั่งการตำรวจทุกคนแล้วว่า ในการทำงานต้องมีศักดิ์ศรี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ครอบครัวตำรวจรับไม่ได้ จึงขอเตือนตำรวจรุ่นหลัง ให้ไปทบทวนบทบาทของตนเอง หากผิดพลาดไป ก็ยังไม่สายที่จะกลับมา