นายกรัฐมนตรี นั่งรถไฟมาหนองคาย ถกหาแนวทางก่อสร้างรถไฟรางคู่เฟส 2 มุ่งพัฒนาจุดขนส่งสินค้าไปเพื่อนบ้าน เข้า “ลาว-จีน” ในระบบ One stop service จุดเดียวจบ
วันที่ 9 ก.ย.2566 เวลา 09.50 น.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ เดินทางมายังสถานีรถไฟอุดรธานี เพื่อขึ้นรถไฟดีเซลรางปรับอากาศชั้นสองขบวนพิเศษ โบกี้ที่ 2516 เดินทางไปยังจังหวัดหนองคาย โดยระหว่างนั่งรถไฟ นายเศรษฐาได้พูดคุยกับ นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน, นายวรายุส์ ตรีวัฒนสุวรรณ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี และ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ถึงเส้นทางรถไฟรางคู่ ซึ่งขณะนี้ ระยะ 1 ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2558 เสร็จถึงแค่ จ.ขอนแก่น ส่วนระยะที่ 2 จะมีการเชื่อมต่อจากขอนแก่นมายังหนองคาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจและการขนส่ง ให้สามารถเชื่อมต่อจากไทยไปลาวและจีนได้ โดยหอการค้าไทย-จีน และ สภาอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี ต้องการให้รัฐบาลเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟรางคู่ให้เสร็จก่อนปี 2569 ที่ จ.อุดรธานี จะเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งเรื่องการค้าและการท่องเที่ยวผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนรถไฟของนายกรัฐมนตรี ได้จอดที่สถานีรถไฟนาทา จ.หนองคาย ซึ่งเป็นจุดที่จะก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยนายเศรษฐา ได้ขอรายละเอียด การพัฒนาพื้นที่นาทา ซึ่งมีแนวคิดต้องการให้เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าแบบ One stop service ที่มีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนถ่ายสินค้าจุดเดียว อาทิ ศุลกากร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และองค์การอาหารและยาซึ่งปลัดกระทรวงคมนาคมชี้แจงว่า การดำเนินการที่ผ่านมา แผนจะเป็นลักษณะเดียวกันกับที่นายกรัฐมนตรีต้องการ ซึ่งจะต้องมีการประสาน กับจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าประเทศเพื่อนบ้าน โดยพื้นที่ก่อสร้างต้องเวนคืนที่ของการรถไฟโดยรอบ 193 ไร่ ใช้เงินลงทุน 5,400 ล้านบาท ให้เอกชนร่วมลงทุน และรายงานต่อนายกรัฐมนตรี ว่าการขนถ่ายสินค้าระหว่างไทยกับลาว ยังมีความล่าช้า เนื่องจากเส้นทางรถไฟจุดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวรับน้ำหนักได้น้อย จึงมีแผนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการรับน้ำหนัก เพื่อทำให้การขนถ่ายสินค้าคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้นต่อมาเวลา 10.50 น. ขบวนรถไฟมาถึงสถานีรถไฟหนองคาย ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากมารอต้อนรับ โดยได้มอบดอกกุหลาบ ผูกผ้าขาวม้า และขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรีด้วยความคึกคัก พร้อมตะโกนด้วยว่า “นายกฯเศรษฐา ชาวนาจะเป็นเศรษฐี” นอกจากนี้ ยังมีสภาเกษตรกรหนองคายได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกับนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้แก้ไขปัญหาสิทธิทำกินและปัญหาแหล่งน้ำ