“เศรษฐา”ลุยพังงาบูม”ท่องเที่ยว”เผยจัดครม.ใกล้จบ รับใกล้เคียง”โผครม.”ที่สื่อเสนอ

 “เศรษฐา” ลงพื้นที่ ลุยพังงาฟังความเห็นเอกชน พร้อมเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ลดหนี้เพิ่มรายได้ให้ประชาชน  เผยจัดครม.ใกล้จบ รับใกล้เคียงกับ “โผครม.” ที่สื่อนำเสนอ ส่วนเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท เริ่มปี’67 ยันเป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งแย้มนั่งควบรมว.คลัง

วันที่ 26 ส.ค.2566 ที่โรงแรม มอริซี เขาหลัก พังงา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านนโยบายพรรคเพื่อไทย (พท.)นำคณะ ลงพื้นที่ จ.พังงา เพื่อพูดคุยกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว มีนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาร่วมพูดคุยด้วย

โดยข้อเสนอสำคัญที่ผู้ประกอบการเห็นตรงกันคือ เสนอให้ก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ให้สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ จัดระบบขนส่งมวลชนให้มีคุณภาพ เพื่อรับนักท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้จ.พังงาและ จ.ใกล้เคียง และขอให้รัฐบาลช่วยจัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาช่วงโลว์ซีซัน

ทั้งนี้ นายเศรษฐากล่าวว่า แปลกใจที่ไม่มีนายกฯมาจ.พังงาถึง 10 ปี เพราะทราบกันดีว่าพื้นที่โซนนี้เป็นแหล่งรายได้ที่มีอนาคต ทำรายได้ให้ประเทศ พรรคเพื่อไทยไม่มี ส.ส.ในพื้นที่ แต่ตนก็จะมาพื้นที่อีก แม้เราไม่มีสส.แต่พรรคเพื่อไทย ไม่ยึดเรื่องการเมืองแต่ตนเป็นนายกฯของคนทั้งประเทศ ยึดคนไทยทั้งประเทศเราดูองค์รวมการพัฒนาประเทศเป็นหลัก

“วันนี้เศรษฐกิจตกต่ำมาก เราต้องเพิ่มรายได้ ที่ชัดเจนคือ เรื่องการท่องเที่ยว เรารับฟังการสร้างสนามบินใหม่ขอให้มั่นใจสนามบินใหม่รับเที่ยวบินขนาดใหญ่ได้แน่นอน และโครงการต่างๆที่มีการพูดถึงแม้หากดูรายโครงการอาจคุ้มทุนช้า แต่ถ้าดูองค์รวมผลตอบแทนน่าจะคุ้ม” นายเศรษฐากล่าว และว่า ถ้ารัฐบาลเพื่อไทย ผ่านการถวายสัตย์แล้วจะไม่ดูแยกโปรเจค แต่จะดูองค์รวมทั้งหมด ไม่ใช่แค่พังงา ภูเก็ต จะไปดูถึงระนอง รวมถึงดูเรื่องหลังบ้าน เรื่องสิ่งแวดล้อมต้องทำควบคู่ไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจ

นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า การดึงดูดนักท่องเที่ยวใหม่ก็สำคัญเช่นกัน สำหรับการท่องเที่ยวด้านสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่จะพักอาศัยระยะยาวและมีค่าใช้จ่ายที่ดี แต่ถ้าหลายจังหวัดเปิดพร้อมกันอาจขาดแคลนบุคลากร รัฐบาลก็จะให้ความสำคัญในส่วนนี้ด้วย สำหรับเรื่องของอีวีบัส ผู้ว่าการท่าฯ ระบุติดต่อได้เลยพร้อมทำได้เลย เรื่องคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร อาจแยกเป็นครม.เศรษฐกิจ หรือครม.มั่นคงเป็นกลุ่มเล็กสะดวกมากกว่า แต่ยืนยันอย่างไรก็จะกลับมาอีก

จากนั้นนายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์หลังพูดคุยกับผู้ประกอบการว่า มีข้อเสนอที่คล้ายคลึงกับจ.ภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน สนามบิน และยืนยันเรื่องสร้างสนามบินที่พังงา เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องผลักดันให้เกิดขึ้น ซึ่งต้องรับความเห็นทุกภาคส่วนก่อนว่าจะนำสนามบินเดิมมาปรับปรุง หรือสร้างใหม่ แต่ถ้าจะทำก็อยากให้ทำดีเลย เข้าใจว่ามีการกำหนดที่ไว้แล้ว

ต่อข้อถามถึง กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กจะส่งต่องานให้ นายเศรษฐากล่าวว่า ขอบคุณ ซึ่งตนจะรับไปพิจารณาและมีหลายท่านที่อยู่ในรัฐบาลเดิม ก็จะไปพูดคุยและไปรับฟังงานที่ทำค้างไว้ โดยเฉพาะการลงทุนที่ทำจากต่างประเทศ น่าจะสามารถต่อยอดไปได้ เช่นเดียวกับ แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่พล.อ.ประยุทธ์ จะฝากไว้กับรัฐบาลใหม่ พรรคเพื่อไทยต้องมาดูว่าส่วนไหนทำได้หรือไม่ได้อย่างไร เพราะโลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเร็วพอสมควร ต้องดูให้ดีก่อนไม่อยากบอกว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ย้ำว่าขอศึกษาก่อน

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการวางตัวรัฐมนตรีว่า ใกล้เคียงมากกับโผที่มีการเสนอข่าว ตน พยายามเต็มที่ เรามีคณะเจรจาและการเจรจาก็เป็นไปในทิศทางที่ดี โดยลงรายละเอียดไปถึงรัฐมนตรีช่วยฯว่าควบคุมกรมอะไร อยู่ในช่วงต่อรอง สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดคือเรื่องของความถนัดของบุคคลที่จะมาดูแลกรมนั้นๆ ด้วย เพราะเราต้องเอาเรื่องของความเจริญบ้านเมืองเป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องการแบ่งสรรอย่างเดียว ย้ำว่าอีกนิดเดียว ขอให้ใจเย็น และหวังว่าวันที่ 28 สิงหาคม จะได้ข้อสรุป

ถามถึงผู้แทนการค้าไทยที่ในรัฐบาลเดิมจะนำมามีบทบาทอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า ปัจจุบันการค้าโลก การเชื้อเชิญนักลงทุนต่างประเทศเข้ามา เป็นเรื่องสำคัญ ผู้แทนการค้าไทยมี
นการค้าไทยมี 5 คน สามารถตั้งประธานได้อีก 1 คนจะเป็นหัวหอกสำคัญในการพัฒนาประเทศ ส่วนจะเป็นของพรรคเพื่อไทยทั้งหมดเลยหรือไม่ ตรงนี้เราต้องให้เกียรติกัน เราต้องดูความเหมาะสมและความสามารถของบุคลากร

ถามอีกว่า ทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยจะเป็นทีมที่แข็งแกร่งหรือไม่ เพราะนายกฯจะควบตำแหน่งรมว.คลังด้วยตัวเอง นายเศรษฐากล่าวว่า อยากให้ผลงานเป็นตัวพิสูจน์ ไม่อยากพูด แต่เราพยายามเต็มที่ ในสภาวะที่ค่อนข้างจะลำบากเศรษฐกิจมีปัญหา ตนคาดว่ามีความคาดหวังสูงแต่ตนเชื่อว่าคนที่ถูกคัดเลือกตัวมาก็พร้อมที่จะทำงานบนความเหน็ดเหนื่อย