“วันชัย สอนศิริ” ยืนยัน ส.ว.พร้อมใโหวตให้ แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย เผยฤกษ์ดีที่สุด ระหว่าง 18 ส.ค. กับ 22 ส.ค.เหมาะที่สุด สยบราหู ขจัดความชั่วร้าย
วันที่ 13 ส.ค.2566 นายวันชัย สอนศิริ สว.กล่าวยืนยันว่า สว. จะลงมติสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย เพราะถือว่าเป็นฝั่งที่สามารถรวมเสียงข้างมากในสภาฯ ได้ ยืนยันว่าการแสดงท่าทีนั้นไม่เกี่ยวข้องต่อกรณีที่พรรคพลังประชารัฐหรือพรรครวมไทยสร้างชาติ แสดงท่าทีสนับสนุน เพราะสว.ยืนยันมาตั้งแต่ต้นว่าหากไม่มีพรรคก้าวไกล ไม่มีประเด็นแก้ไขมาตรา 112 และพรรคไหนรวมเสียงข้างมากได้ พร้อมจะสนับสนุน แม้จะมีหรือไม่มีพรรครวมไทยสร้างชาติหรือพรรคพลังประชารัฐก็ตาม ทั้งนี้เพื่อไม่ให้กลายเป็นปัญหาหรืออุปสรรคของการจัดตั้งรัฐบาล
“เมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศออกมา สว. มีความพร้อม และเมื่อบอกว่ามี 2ลุงอีก ถือเป็นฝีมือของพรรคเพื่อไทยที่สามารถหาความมั่นใจในเสียงสนับสนุนได้ ดังนั้นแม้จะมีพรรค2ลุง หรือไม่มี สว. พร้อมจะโหวตให้”นายวันชัย กล่าว
เมื่อถามว่าการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินวันที่ 16 ส.ค. จะเป็นตัวแปรหรือไม่ นายวันชัย กล่าวว่า เชื่อว่าไม่เป็นประเด็นปัญหาหรืออุปสรรค เพราะมองว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาใน 2 แนวทาง คือ รับ และไม่รับเท่านั้น โดยไม่มีคำสั่งให้ทุเลาหรือหยุดเลือกนายกฯ ดังนั้นการโหวตเลือกจะเดินหน้าต่อได้
เมื่อถามมองอย่างไรหากการโหวตนายกฯ พรรคก้าวไกลจะเสนอแคนดิเดตนายกฯแข่งกับพรรคเพื่อไทย นายวันชัย กล่าวว่า แม้จะเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลให้รัฐสภาโหวต เชื่อว่าจะไม่มีใครโหวตให้ เสนอมาก็จะแพ้ ดังนั้นไม่เป็นประโยชน์ แม้จะเป็นการกระทำเชิงสัญลักษณ์ก็ได้ เพราะชื่อของนายพิธานั้น มติของรัฐสภาชี้ชัดว่าไม่สามารถเสนอซ้ำได้ ส่วนที่มีการมองว่าตามข้อบังคับข้อ41 ระบุข้อยกเว้นว่าเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป นั้นตนเชื่อว่าพรรคก้าวไกลรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรทำ
เมื่อถามว่าวันโหวตนายกฯ ต้องพิจารณาญัตติที่ขอให้ทบทวนมติรัฐสภา 19 ก.ค.ที่พรรคก้าวไกลเสนอก่อนหรือไม่ นายวันชัย กล่าวว่า เชื่อว่า ประธานรัฐสภาคงหารือฝ่ายกฎหมายอย่างรอบคอบ และมีคำตอบที่ชัดเจนถึงเหตุผลที่เลื่อนการประชุมรัฐสภา เมื่อ 4 ส.ค. และเชื่อว่าจะเป็นข้อยุติในที่ประชุม
เมื่อถามถึงฤกษ์ดีที่สุดสำหรับการโหวตนายกฯ รอบสาม ระหว่างวันที่ 18 ส.ค.กับวันที่ 22 ส.ค. นายวันชัย กล่าวว่า ทั้ง 2 วันถือเป็นดีทั้งสิ้น แต่วันที่ 18 ส.ค.ถือว่าเป็นพลังแห่งอำนาจที่สยบราหู มีอำนาจ และขจัดความชั่วร้ายต่างๆ ให้หายสิ้นไปได้ ถือเป็นวันที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง ไปสู่การแก้ปัญหาให้ประเทศ ส่วนตัวมองว่ามีแนวโน้มโหวตวันที่ 18 ส.ค.นี้ เพราะประเมินจากความพร้อมและทุกอย่างเจรจาลงตัว อีกทั้งหากโหวตได้เร็วจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย พรรคการเมืองจะสงบ และได้นายกฯ คนใหม่โดยเร็ว ส่วนวันที่ 22 ส.ค. ถือเป็นวันมหาเสน่ห์มีมนต์ขลัง สร้างความรักและความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นได้