วันเกิด หลวงปู่เฮง เกจิดังอีสานใต้ครบรอบ 96 ปี ประชาชนแห่รอรับแจกเหรียญเฮง ชนะมารหลังปลุกเสก อย่างเข้มขลังค์ โดยมีบรรดาเซียนพระยืนรอขอเช่าเหรียญเฮงชนะมาร กับประชาชนรอรับ พร้อมพิธีเบิกเนตรรูปเหมือนใหญ่สุดในโลก ขณะที่ขันน้ำมนต์ของหลวงปู่เฮงมองเห็นอายุ 96,69 และอายุหลวงปู่เฮง ส่วนแผงล็อตเตอรี่เลขอายุ 96,69,97,79 วันเกิด 11 ออกมาแล้วงวดก่อนขาดตลาด
วันที่ 12 สิงหาคม 2566 ที่วัดพัฒนาธรรมาราม หรือวัดบ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เวลา 09.30 น.นายพิจิตร บุญทัน ผวจ.สุรินทร์ เป็นประธานในพิธีฉลองอายุวัฒนมงคล ครบ 8 รอบ 96 ปี เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม โดยมีพระพรหมณ์วชิรโมลีที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 ,พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะ จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ ศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนจากทั่วประเทศ รวมทั้งชาวกัมพูชาในพื้นที่ ด้วยความศรัทธาและอิ่มบุญกันถ้วนหน้า โดยมีประชาชนที่ศรัทธามาร่วมออกโรงทานเป็นจำนวนมาก
จากนั้นเวลา 11.09 น.ได้มีพิธีบวงสรวงเบิกเนตรมนฑลรูปเหมือนหลวงปู่เฮง ปภาโส องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดหน้าตักกว้าง 7 เมตร สูง 9 เมตร ไม่รวมฐานมลฑป โดยมีรูปปั้นองค์พญานาคสององค์ขนาดใหญ่ขนาบข้างอย่างสวยงาม ถือว่าเป็นแลนมาร์คที่สวยงามและน่ามากราบสักการะและท่องเที่ยว ซึ่งวัดอยู่ติดกับตลาดการค้าชายแดนช่องจอมซึ่งสามารถจอดรถที่หลังตลาดเดินเที่ยวเลือกซื้อสินค้า ก่อนเดินทะลุประตูข้างกำแพงวัดข้างตลาดทางทิศตะวันตก เพื่อเข้ามากราบไหว้สักการะได้อย่างสะดวกอีกด้วย
จากนั้นในช่วงบ่าย หลวงปู่เฮง ปภาโส ได้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลร่วมกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่รวมทั้งหมด 9 องค์นั่งปรกอธิษฐานจิตอย่างเข้มขลังค์ ให้กับเหรียญวัตถุมงคลจำนวน 7 รุ่น โดยเฉพาะเหรียญรุ่น”เฮงชนะมาร “จัดสร้างโดยคุณเกรียงสิทธิ์ โสภิตประสานฐากูรและทีมงาน ซึ่งได้บริจาคเงิน 500,000 บาทสมทบทุนสร้างมลฑลหลวงปู่เฮง ปภาโส องค์ใหญ่ที่สุดในโลก และหลังจากเสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษก เวลา 15.30 น.ได้มีการแจกเหรียญรุ่นเฮงชนะมาร โดยมีประชาชนและพุทธศาสนิกชนแห่มารอรับเป็นจำนวนมากจนแน่นวัด และเซียนพระก็มารอรับเช่าเหรียญทันทีโดยให้ราคาองค์ละ 200-300 บาท โดยชาวบ้านที่ได้รับเหรียญแจกไปบางคนก็ให้เช่าต่อบางคนเก็บไว้เพื่อให้ลูกหลานได้บูชาต่อไป
ขณะที่ประชาชนนักเสี่ยงโชคได้ถือโอกาสไปดูขันน้ำมนต์ของหลวงปู่เฮง เห็นตัวเลขชัดๆ 96 และเลข 79 ทำให้เป็นที่ฮือฮาของประชาชนที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก เนื่องจากเลข 79 และ 97 ตรงกับอายุของหลวงปู่เฮง ที่ในวันนี้อายุครบ 96 ปีเต็มและย่างเข้าวัย 97 ปีอีกด้วย ทำให้แผงล็อตเตอรี่เลขอายุ 96,69 97,79 และเลขวันเกิด 11 ส.ค.แม้จะออกเลขล่างมาแล้วเมื่องวดวันที่ 31 ก.ค.66 ที่ผ่านมาก็ตาม หมดและหาซื้อแทบไม่ได้อีกด้วย
สำหรับ เหรียญพระเครื่องรุ่น””เฮงชนะมาร “จัดสร้างโดย คุณเกรียงสิทธิ์ โสภิตประสานฐากูรและทีมงาน ซึ่งได้บริจาคเงิน 500,000 บาทสมทบทุนสร้างมลฑลหลวงปู่เฮง ปภาโส องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเหรียญพระเครื่องรุ่น””เฮงชนะมาร “มีหลากหลายเนื้อให้เลือกบูชา อาทิ เนื้อทองคำ เนื้อเงินหน้าทอง เนื้อนวะ หน้ากากทองคำ เนื้อเงินบริสุทธิ์ เนื้อเงินลงยา เป็นต้น
สำหรับหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมารามหรือวัดบ้านด่านช่องจอม สิริอายุ 96 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภของแดนดินถิ่นอีสานใต้ วัดตั้งอยู่ที่ บ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลวงปู่เฮงฯเกิดเมื่อ เดือนสิงหาคม 2470 ปีเถาะ พ่อแม่เป็นชาวกัมพูชา แต่ได้อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครอง โดยย้ายมาอยู่หมู่บ้านปราสาท ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน มีพี่น้องด้วยกัน 13 คน เป็นบุตรคนที่ 7 ที่หมู่บ้านปราสาท ในวัยเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง เดินทางธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติ พี่น้องที่ประเทศไทย บอกจะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปได้ขอกับแม่ของท่าน โดยขอให้น้องไปด้วย และจะได้สอนให้ได้หัดเรียนเขียนอ่านหนังสือทำให้ได้ศึกษาอักษรขอมศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ ตั้งแต่บัดนั้น ศึกษากับพระอาจารย์เฉิด พระพี่ชายและออกธุดงค์ไปด้วยเสมอ
จนอายุ 15 ปี ได้กลับมาบ้านและบวชเรียนเป็นเณร เรียนภาษาไทย ขอม และภาษาบาลี เพิ่มเติม สอบได้นักธรรมโท ครั้นอายุ 21 ปี ไปเป็นทหารที่กรมทหารม้า จ.ลพบุรี เลี้ยงม้าขี่ม้าอยู่ 3 ปี หลังปลดประจำการก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย ช่วงชีวิตหนึ่งของท่านท่องเที่ยวไปทั่ว และไปอยู่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่ง พ.ศ.2495 ได้ย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี มีโอกาสพบกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จึงตัดสินใจบวช หลวงพ่อคงได้ถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม เขียนผงลบผง สักยันต์ และคาถาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะคาถาคงกระพันชาตรี ย่นระยะทาง มุ่งมั่นศึกษาจนมีความชำนาญ กระทั่งหลวงพ่อคงไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน และเข้าร่วมปลุกเสกด้วย พ.ศ.2532 หลวงพ่อคงมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสแทน แต่อยู่ได้เพียง 6 พรรษา ก็ขอลาออกและธุดงค์ไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้และชาวกัมพูชาแถบชายแดน ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ด้วยเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าอายุจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย อีกทั้งเมื่อท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ ส่วนกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ ท่านต้อง เดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้จะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถ ทัดทานได้ ด้านวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัวเกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมและพลังจิตของท่าน ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสุรินทร์และแดนดินถิ่นใต้
ภาพ/ข่าว: ทีมข่าวเฮพาะกิจภูมิภาค จ.สุรินทร์
