เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่มูลนิธิเพื่อศูนยืกลางอิสลามแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยฟาตอนี นำโดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธ่านมหาวิทยาลัย ดร.อิสมาแอล ลุตฟีจะปะกียา อธิการบดี ได้จัดกิจกรรมพบปะมุสลิมปัญญาชนกรุงเทพฯ โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมประมาณ 80 คน อาทิ อุปทูตซาอุดิอารเบียประจำประเทศไทย นายสามารถ มะลูลีม อดีต ส.ส.กทม. ประชาธิปัตย์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตเลขาธิการศอ.บต ดร.อิมรอน มะลูลีม กรรมการมหาวิทยาลัย เป็นต้น
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวว่า ในปี 2561 มหาวิทยาลัยฟาตอนี จะมีก่อตั้งครบ 20 ปี จะมีการจัดงานใหญ่เพ่ื่อให้เห็นว่า ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยประสบความสำเร็จในการให้การศึกษาแก่เยาวชนมุสลิม และเยาวชนจากต่างชาติมากกว่า 50 ประเทศ
“ม.ฟาตอนี เริ่มจากการบริจาคของคนขายพลอย 300,000 บาทให้กับดร.อิสมาแอล ที่มาดีนะห์ เพื่อสร้างฝันที่จะก่อตั้งมหาวิทยาลัย จากวันนั้น มหาวิทยาลัยได้กำเนิดขึ้นมาด้วยเงินบริจาค จึงถือว่า เป็นมหาวิทยาลัยของพี่น้องทุกคน ที่ร่วมกันบริจาค ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ผม ดร.อิสมาแอล เข้ามาเพื่อบริหาร ไม่มีผลประโยชน์อะไรเกี่ยวข้อง แต่เพื่อต้องการสร้างการศึกษาให้กับเยาวชน ที่ผ่านมา เยาวชนที่บจากม.ฟาตอนี มีอัตราการทำงาน 100% ส่วนใหญ่เป็นการทำงานส่วนตัว และจากการประเมินของสมส. มหาวิทยาลัย ได้รับคะแนนที่ดี 4 คะแนนกว่าจากคะแนนเต็ม 5 ถือเป็นมหาวิทยาลัยในระดับมาตรฐาน” อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าว
เขา กล่าวว่า มีข่าวดีว่า กษัตริย์ซัลมานของซาอุดิอารเบีย ได้บริจาคเงิน 20 ้ลานเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 680 ล้านบาทให้กับมหาวิทยาลัยฟาตอนี เพื่อสร้างมัสยิด ศูนย์อิสลามศึกษาที่จะเก็บรวบรวมงานด้านวิชาการของอิสลามทั้งหมด และสร้างระบบเทคโนโลยี ซึ่งอุปทูตซาอุดิอารเบียมาร่วมในวันนี้ก็เพื่อยืนยันในเรื่องนี้
นายวันมูหะมัดยอร์ มะทา กล่าวด่้วยว่า ม.ฟาตอนี้กำบังจะขยายวิทยาเขตในกรุงเทพฯ ที่เขตหนองจอก โดยมีนายวรวีย์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอลฯ เป็นผู้จัดหาที่ดิน อยู่ระหว่างการดำเนินการ เมื่อก่อสร้างเสร็จก็จะช่วยบริการการศึกษาแก่เยาวชนในพื้นที่กรุงเทพฯและเยาวชนได้เป็นอย่างดี