“จตุพร” เชื่อ 10 ส.ค.ไม่มี “ทักษิณ”ลงเครื่องดอนเมือง ชี้จบแล้วดีลกลับบ้านเท่ๆ เหตุผิดพลาดผสมปลายทางมีสคอล ไม่ว่างรับสาย ฉะดันทุรังตั้ง รบ.ข้ามขั้วก่อวิกฤตฉิบหาย เฉ่งเกมผสมสีแดงกับเหลืองล้มส้มเป็นพวกอำมหิต ปั่น ปชช.ต่อสู้ห้ำหั่นกันเพื่อรักษาประโยชน์นักการเมือง ย้ำแผนรอเชือดเพื่อไทยน้ำตื้น ท้าอยากรู้ดันส่ง “อุ๊งอิ๊ง” เป็นนายกฯ พิสูจน์เกม “ประวิตร” ผู้เฒ่าซ่อนสารพิษ
วันที่ 29 ก.ค. 2566 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “ผิดพลาด!!” ว่า ดีลตั้งรัฐบาล พร้อมเงื่อนไขเดินทางกลับไทยอย่างเท่ๆ ของทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 10 ส.ค.นี้ ได้จบสิ้นลงแล้ว เนื่องจากไม่แน่ใจกรณีติดคุกค้างคืนจะได้รับอภัยโทษคดีทุจริต จึงเป็นความผิดพลาดไม่รู้จักจำกับการดีลถึง 20 ครั้งในรอบ 17 ปีที่พยายามหาทางกลับบ้าน
นายจตุพร กล่าวว่า ทักษิณ กลับไทยเพื่อมาติดคุกนั้น คุกไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่ต้องตัดใจได้และไม่คิดอะไรมาก ขอเพียงให้มีจิตใจผ่องแผ้วจะได้รับรู้ถึงเวลาในคุกเดินทางได้รวดเร็ว หากตัดใจไม่ได้ การประกาศกลับบ้านกี่ครั้งก็เหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ตนยังเชื่อว่าวันที่ 10 ส.ค. นี้ ทักษิณ จะไม่มาตามที่ประกาศเอาไว้
พร้อมยกกรณีอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 2 คนที่ติดคุก เคยขออภัยโทษก็ไม่เคยได้รับ ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ได้รับอภัยโทษเร็วขึ้น สิ่งสำคัญคือ คดีทุจริตถึงจะยื่นไปก็ตาม แต่ยังไม่เคยได้รับอภัยโทษด้วย ดังนั้น ทักษิณ กลับบ้านแบบเท่ๆ ติดคุกคืนเดียวจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อีกทั้งย้ำว่า ในวันที่ 10 ส.ค.นี้ วันที่ทักษิณ ประกาศจะกลับบ้าน แม้ตนเห็นใจคนในครอบครัวชินวัตร แต่ถ้าทักษิณตัดสินใจไม่อีนังขังขอบก็กลับมา หากตนประเมินผิดพลาดก็ให้เครื่องบินลงที่สนามบินดอนเมือง ส่วนรถทัวร์มาลงที่ตนได้ และพร้อมรับ
“แต่การข่าวนั้น บ่งว่าขณะนี้จบแล้ว และวันที่ 10 ส.ค.เป็นที่ยุติ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้ ขณะที่การตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ต้องรอวิวัฒนาการกันไป เพราะพฤติกรรมมันบ่งบอกว่าการดีลกันนั้นเป็นการนำพาสู่ความฉิบหาย แค่แสดงเจตนาข้ามขั้วก็จบแล้ว และฉิบหายแล้ว”
ส่วนการตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ตามแนวคิดจับสีเสื้อแดงผสมเหลืองเพื่อต่อสู้ถล่มส้มนั้น นายจตุพร กล่าวว่า การตั้งรัฐบาลไม่ใช่เรื่องสีเสื้อ แต่หลักสำคัญอยู่ที่การยึดมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ดังนั้น ประชาชนต้องเข้มแข้ง อย่ายอมให้ทฤษฎีรัฐบาลแบบสีเสื้อเกิดขึ้น เพราะทฤษฎีนี้เริ่มต้นจากการตระบัดสัตย์ข้ามขั้ว ยิ่งจะทำให้ทักษิณไม่ได้กลับมาไทยเลย เนื่องจากประชาชนทนการเสียรู้ไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ประชาชนต้องไม่คิดต่อสู้ห้ำหั่นทำลายประชาชนด้วยกันเอง
“พวกคิดเกมทฤษฎีสีเสื้อนี้เป็นพวกอำมหิต เป็นการคิดแผนที่อันตรายที่สุด ดังนั้น ประชาชนต้องเข้มแข็ง และมีความมั่นใจ อย่าไปเป็นเครื่องมือของเกมแดงจับมือเหลืองล้มส้ม เพราะเป็นการปลุกปั่นให้ประชาชนฆ่าประชาชนกันเอง สิ่งสำคัญประชาชนต้องร่วมมือกันในการนำพาแก้ปัญหาของชาติ เพื่อหาทางให้ประเทศรอด นั่นเป็นหน้าที่ของประชาชน แต่ต้องไม่ใช่นักการเมืองมาปั่นให้ฆ่ากันเพื่อปกป้องนักการเมือง ประชาชนควรปกป้องประเทศไม่ใช่ปกป้องนักการเมือง”นายจตุพร กล่าวว่า การพยายามตั้งรัฐบาลนั้น ในขณะนี้ถ้าไม่ข้ามขั้วก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีสูตรรัฐบาลข้ามขั้ว แต่ระหว่างทางจะเกิดวิกฤตขึ้น ซึ่งนักการเมืองอย่ามาท้าทายประชาชน อีกอย่างการคิดเกมสลับสีประชาชนย่อมรับการกระทำอันอุอาจนี้ไม่ได้ จึงอย่าคิดทำอะไร ดีไม่ดีประชาชนจะรวมตัวกันไปถล่มเพื่อไทยให้ยับเยินก็ได้
ส่วนข้อเสนอตามกระแสข่าวนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ไปเจรจากับทักษิณ ที่ฮ่องกงนั้น แม้ยังไม่มีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ข่าวระบุถึงการเสนอว่า ไม่มีลุง ไม่มีก้าวไกลนั้น แม้แสดงถึงการโหวตให้รัฐบาลข้ามขั้ว แต่ไม่ร่วมรัฐบาลด้วย หากเป็นเช่นนี้ พรรคก้าวไกลยิ่งเป็นฮีโร่ ส่วนพรรคตั้งรัฐบาลจะกลายเป็นพวกผีถูกเผาไปทันที
รวมทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลาออกจากหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้น นายจตุพร กล่าวว่า แสดงถึงลีลาของผู้เฒ่าสารพิษ และตอกย้ำถึงรัฐบาล คสช.มาตลอด ถ้าไม่มี พล.อ.ประวิตร ก็ไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อย่างไรก็ตาม ภาพ พล.อ.ประวิตร ที่แสดงให้ภายนอกเห็นนั้น คือคนพูดแต่คำไม่รู้ๆ ซึ่งแตกต่างจากการพูดในที่ลับจะมีอำนาจมากที่สุด และเป็นคนรู้เรื่องดีที่สุด
“การโหวตนายกฯ เพื่อไทยนั้น ถ้าอุ๊งอิ๊ง (แพทองธาร ชินวัตร) พร้อมเป็นนายกฯ ฝ่าย 188 เสียงจะโหวตให้ เพื่อเร่งดันให้ไปสู่การพังได้เร็วขึ้น จะได้ปิดฉากการเมืองเร็วที่สุด ดังนั้น ฝ่าย 188 เสียงพร้อมจัดให้ แต่อุ๊งอิ๊งจะไม่ได้บริหารประเทศเลย เพราะประชาชนออกมาเต็มถนน ถ้าไม่เชื่อเพื่อไทยก็เสนออุ๊งอิ๊งมาเป็นนายกฯ ซึ่งพิสูจน์กันได้” นายจตุพร ย้ำ
พร้อมระบุว่า มีข่าวปล่อยว่า พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย พล.อ.ประวิตร จะเป็น รมต.มหาดไทย ถ้าอยากเห็น พล.อ.ประวิตร ก็พร้อมจัดให้เช่นกัน ดังนั้น ที่มีข่าวว่า พล.อ.ประวิตร ถอย หรือเป็นไอ้เสือถอยนั้น แค่เป็นการถอยแบบรอจังหวะรุกกลับคืน โดยทุกเกมต้องการให้อุ๊งอิ๊งมาเป็นนายกฯ เพื่อลากมาเชือดในน้ำตื้น
“ถ้าต้องการจะจบไม่ยาก เขา (พล.อ.ประวิตรและฝ่าย 188 เสียง) พร้อมจะจบให้ ขอให้เสนออุ๊งอิ๊งมาสิ ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ถ้าเสนอคุณเศรษฐา ทวีสิน ก็จะถูกโหวตล่มอีก เพราะต้องการรอโหวตให้อุ๊งอิ๊งคนเดียว อยากพิสูจน์ อยากจบเร็ว ก็เสนออุ๊งอิ๊งมาเลย”
รวมทั้ง กล่าวถึงการประชุมสภาโหวตนายกฯ วันที่ 4 ก.ค.นี้ นายจตุพร กล่าวว่า อาจมีการเลื่อนก็ได้ เพราะมีหลายเรื่องให้สภาต้องหารือกัน อีกทั้งศาล รธน.จะพิจารณาคำร้องมติตามข้อบังคับประชุมข้อที่ 41 ขัด รธน.จะมีผลอย่างไรด้วย หรือถ้าได้โหวตนายกฯ คนที่จะถูกเสนอชื่อ ซึ่งคาดเป็นนายเศรษฐา ก็ไม่อยากจะเป็นเช่นกันท่ามกลางการเมืองแบ่งฝ่ายช่วงชิง ขัดแย้งกันในขณะนี้
นายจตุพร ย้ำว่า สูตรการตั้งรัฐบาลที่น่าจะเป็นและต้องยึดมั่นกันไว้ให้มากที่สุดคือ 8 พรรค MOU จับมือกันให้มั่นคง ไม่แตกแยกแล้วอย่ารีบพาประชาชนไปแพ้ แต่ควรรอแบบอดเปรี้ยวไว้กินหวานจะดีกว่า
“ถ้ารีบไปแพ้แล้ว จะมีปัญหาว่า รีบไปทำไม การอดเปรี้ยวไว้กินหวานคือ เป็นหวานของประชาชน เพื่อได้อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนอย่างแท้จริง ซึ่งไม่เคยมี เพราะเราอยู่ในวังวนของนักการเมืองและการรัฐประหารมาโดยตลอด ดังนั้น ประชาชนควรเตรียมตัว เตรียมใจไว้ให้พร้อมกับสถานการณ์ที่แปรปรวนสูงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในขณะนี้”