ศาลฎีกาฯ พิพากษากลับ สั่งจำคุก 9 ปี “ไพร พัฒโน” อดีตนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ คดีหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระ 27ล. -ริบเงินมูลนิธิฯ 20 ล้านด้วย
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ที่มีคำพิพากษา กลับให้ลงโทษจำคุก เป็นเวลา 9 ปี นายไพร พัฒโน อดีตนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กรณีถูกกล่าวหาดำเนินงานโครงการจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระประจำเมืองหาดใหญ่ ‘พระพุทธมงคลมหาราช’ ของเทศบาลนครหาดใหญ่ เมื่อปี 2547 เนื่องจากเห็นว่ามีการกระทำผิดหลายกรรม และริบเงินที่เกี่ยวข้องในมูลนิธิสิรินธรราชวิทยาลัย จำนวน 20 ล้านบาท
หลังก่อนหน้านี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาลงโทษ จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ก่อนที่ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ จะมีคำพิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
สำหรับข้อมูลคดีนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน และแจ้งข้อกล่าวหา นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กับพวกรวม 28 ราย กรณีถูกกล่าวหาว่า ในการดำเนินงานโครงการจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระประจำเมืองหาดใหญ่ ‘พระพุทธมงคลมหาราช’ ของเทศบาลนครหาดใหญ่ เมื่อปี 2547 โดยขอจ่ายขาดเงินสะสมของเทศบาลนครหาดใหญ่ จำนวนกว่า 20 ล้านบาท โดยทำหนังสือขออนุมัติเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2547 เพื่อนำใปใช้ในการดำเนินโครงการ
กรณีนี้ไม่ใช่กิจการที่อยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่ นายไพร จึงไม่มีอำนาจที่จะเสนอโครงการดังกล่าวต่อสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ และสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ก็ไม่มีอำนาจอนุมัติเงินจำนวนนี้ด้วย แต่ปรากฏว่า สภาเทศบาลนครหาดใหญ่กลับอนุมัติให้จ่ายขาดเงินดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2547 ทั้ง ๆ ที่ไม่มีกฎหมาย หนังสือ ระเบียบ หรือข้อบังคับจากกระทรวงมหาดไทยรองรับมาก่อน
นอกจากนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนฯสืบทราบมาว่า รายได้ที่ได้จากการเปิดให้เช่าวัตถุมงคลดังกล่าว ไม่ได้ถูกนำไปบูรณะซ่อมแซม องค์พระประจำเมืองนครหาดใหญ่ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่ามีมูลความผิดทางอาญา และทำให้เกิดความเสียหายต่อเทศบาล
สำหรับ ไพร พัฒโน ทายาทนักการเมืองใหญ่สงขลา ไสว พัฒโน ไพรเป็น ส.ส.ประชาธิปัตย์ ต่อจากผู้พ่ออยู่หลายสมัย ก่อนจะตัดสินใจลาออกจาก ส.ส.ไปลงสมัยนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และได้รับเลือกตั้งต่อเนื่องกันมาอีกหลายสมัย เคยออกจากประชาธิปัตย์ไปช่วยพลังประชารัฐหาเสียง และการเลือกตั้ง ปี 2566 ที่ผ่านมา ไพรตัดสินใจย้ายไปลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคภูมิใจไทย แต่แพ้การเลือกตั้งให้กับสมยศ พลายด้วง จากพรรคประชาธิปัตย์.