กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดหลักสูตรนักบริหารด้านสิทธิมนุษยชนระดับสูง (บสส.) รุ่นที่ 1 มุ่งพัฒนาความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และภาคประชาสังคม
วันที่ 28 มิ.ย. 2566 เวลา 09.00 น. ที่ ห้องวีนัส ชั้น 3 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน กทม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมและการปฐมนิเทศหลักสูตรนักบริหารด้านสิทธิมนุษยชนระดับสูง (บสส.) รุ่นที่ 1 โดยมี นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวรายงาน และมี นายณัฐพล ด่านจิตร์ตรง ผู้อำนวยการกองส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพ กล่าวชี้แจงวัตถุประสงค์การจัดอบรม ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ด้วย และมี นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจโทประวุธ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และผู้บริหารระดับสูงจากทุกภาคส่วน เข้าร่วมงานอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า การฝึกอบรมและการปฐมนิเทศหลักสูตรนักบริหารด้านสิทธิมนุษยชนระดับสูง (บสส.) รุ่นที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนาความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และภาคประชาสังคม และมีการศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน ให้เกิดความรู้ทักษะและเครือข่ายผู้บริหารด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อนําไปปรับใช้ในการทํางานให้เกิดประโยชน์ต่อหน่วยงาน ชุมชน สังคมและประเทศชาติต่อไปนายวิษณุ เครืองาม กล่าวว่า สิทธิมนุษยชนอยู่ภายใต้กฎหมาย สิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องของทุกคน การพัฒนาองค์ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนมีความจำเป็นต้องเรียนรู้ร่วมกัน ร่วมคิด ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ให้เข้าใจตรงกัน และประสานความร่วมมือในการปฏิบัติงานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการเคารพสิทธิมนุษยชนในสังคมไทยได้อย่างกว้างขวาง เป็นรูปธรรม โดยการลดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง สร้างวัฒนธรรมการเคารพสิทธิมนุษยชนให้เกิดขึ้นในสังคมไทยได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โดยสถาบันพัฒนาสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางในการขับเคลื่อนสร้างองค์ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน จึงจัดให้มีการอบรมหลักสูตรนักบริหารด้านสิทธิมนุษยชนในระดับสูง เพื่อให้เกิดการผลักดันกระบวนการเรียนรู้กับทุกภาคส่วน เกิดการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้ชุมชนและสังคมเกิดความสงบสุขได้อย่างยั่งยืน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการฝึกอบรมครั้งนี้ จะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นเครือข่ายในการปฏิบัติงานในด้านสิทธิมนุษยชน และสามารถสร้างองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนเป็นรูปธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไป.