“พิธา”นำคณะส.ส.ก้าวไกล 149ราย ตบเท้า รายงานตัว มั่นใจ “ตั้งรัฐบาล”ไม่สะดุด

“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” นำคณะ ส.ส.ก้าวไกล 149 รายตบเท้า เข้ารายงานตัวต่อสภาฯ “ด้อมส้มแฟนคลับ-กองทัพสื่อพรึ่บ” เปิดฉากซัด ส.ว.อย่าขืนมติปชช.ใช้ข้ออ้าง ม.112 ขวางนั่งนายกฯ ขู่หากยังฝืนเท่ากับดึงสถาบันชนกับประชาชน ไม่หนักใจปมศาล รธน.มั่นใจเส้นทาง”ตั้งรัฐบาล”ไม่สะดุด

วันที่ 27 มิ.ย. 2566 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้า และแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล นำ 149 ส.ส.พรรคก้าวไกล เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาฯ โดยได้เดินทางมาด้วยรถบัส จำนวน 4 คันรถ และ เดินนำ ส.ส.มาด้วยตัวเอง โดยนายพิธา และ ส.ส.ของพรรคสวมเสื้อยืดสีขาวไว้ข้างในสกรีนข้อความระบุว่า “เราคือผู้แทนราษฎร เรามาจากประชาชน” ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นไปอย่างคึกคัก มีสื่อมวลชนติดตามทำข่าวจำนวนมาก ขณะที่ บรรดาข้าราชการสภาฯ นักศึกษาฝึกงาน ให้ความสนใจติดตาม ตลอดจนแม่บ้านรัฐสภานำป้าย “ยินดีต้อนรับ” มาคอยถ่ายรูปกับ ส.ส.ของพรรคก้าวไกลจากนั้นในเวลา 10.00 น.นายพิธา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารายงานตัวว่า ตัวเลข ส.ส.ไม่สำคัญเท่ากับการตั้งใจเข้ามาเป็น ส.ส.ให้สมกับได้รับเลือกมา โดยพรรคมีกฎหมายก้าวหน้าที่สำคัญเพื่อประชาชน เช่น กฎหมายเพื่อกลุ่มหลากหลายทางเพศ , กฎหมายเพื่อกลุ่มผู้ใช้แรงงาน , กลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ เป็นต้น และมีอีกหลายเรื่องที่จะพยายามทำในสภาฯ​ชุดที่แล้ว แต่ถูกปัดตกไป

ต่อข้อถามถึงเหตุผลที่ใช้วันที่ 27 มิ.ย.มารายงานตัว นายพิธา กล่าวว่า มีหลายเหตุผล อย่างแรกคือตนติดโควิด จึงมาก่อนหน้านี้ไม่ได้ และวันนี้มีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ชาติไทยเมื่อถามว่า เป็นกังวลหรือไม่ที่มี ส.ว.หลายคนออกมาแสดงจุดยืนไม่โหวตให้เป็นนายกฯ นายพิธา กล่าวว่า ไม่กังวล และเท่าที่คุยหลายคนมีหลักและดุลยพินิจในการโหวตเลือกตามบรรทัดฐานที่ ส.ว.ทำไว้ปี 2562 ว่า หากสภาล่าง ฝ่ายใดรวมกันได้ 251 เสียง ก็ไม่ต้องการฝืนมติของสภาล่าง เพราะเป็นมติที่มาจากประชาชน ดังนั้น จึงเชื่อว่า ภาพรวม 250 ส.ว.จะเป็นไปตามหลักการ และขอให้ ส.ว.ยึดหลักการดังกล่าวให้มั่นมากกว่ามองเรื่องตัวบุคคลว่าจะโหวตให้ตนหรือไม่

เมื่อถามถึงกรณีที่ ส.ว.ซึ่งที่เคยประกาศสนับสนุน แต่ล่าสุด นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.ระบุว่ามีการถอยแล้ว และ มีเสียง ส.ว.ที่หนุนจริงไม่เกิน 3 คนเท่านั้น นายพิธา ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุเป็นเรื่องจริง และมีความคืบหน้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ พรรคมีความตั้งใจทลายกำแพงของ 2 สภา แน่นอนว่า ส.ว.ทุกคนไม่มีโอกาสได้พูดกับสื่อมวลชน มี ส.ว.ไม่กี่คน ไม่ว่าจะฝั่งเห็นด้วยโหวตตนเป็นนายกฯ หรือฝั่งที่อยู่ตรงข้าม มี ส.ว.อีกจำนวนมากที่ไม่ได้คุยกับสื่อมวลชน ดังนั้น ต้องรอเวลา เมื่อถามย้ำถึงจำนวนเสียง ส.ว.ที่จะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ นายพิธา กล่าวว่า “เพียงพอที่จะทำให้ผมเป็นนายกฯ”ถามต่อว่า เวลาโทรศัพท์ไปยัง ส.ว.พูดคุยเพื่อขอเสียงเป็นนายกฯหรือชี้แจงการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นายพิธา กล่าวว่า หลายเรื่องที่เป็นข้อกังวลใจของ ส.ว.แต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของหลักการ ให้เป็นไปตามปี 2562 ที่เมื่อสภาฯ ล่างรวมเสียงได้มาก ไม่ควรมีใครมาขืน

ส่วนกรณีที่ ส.ว.ยังคาใจกับการแก้ไขมาตรา 112 พรรคก้าวไกลจะถอดสลักดังกล่าวเพื่อบรรลุเป้าหมายของการได้ตำแหน่งนายกฯหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า การแก้ไขมาตราดังกล่าวเป็นสิ่งที่พรรคได้พูดก่อนการเลือกตั้งที่ชัดเจนว่าจะเป็นการทางออกให้กับสังคมไทย เพราะช่วงที่ผ่านมามีการใช้มาตราดังกล่าวเป็นเครื่องมือทางการเมืองรังแกคนเห็นต่าง จึงไม่เป็นผลดีกับสถาบันใดเลย อย่างไรก็ดี ตนเชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะไม่เป็นเหตุให้เส้นทางการจัดตั้งรัฐบาลสะดุด

“มีข้อมูลมีหลายฝ่ายที่ยังเข้าใจผิดเกี่ยว เพราะการแก้ไข คือ การแก้ไข ไม่ใช่การยกเลิก เท่าที่ได้คุยกับวุฒิสภา ทำให้เขาเข้าใจมากขึ้น ว่าการรักษาปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับประเทศไทยที่กำลังเปลี่ยนผ่าน” นายพิธา กล่าวเมื่อถามย้ำว่า หากเรื่องการแก้ไข มาตรา 112 ทำให้ไปไม่ถึงนายกฯ วางแผนไว้อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า หากมีเป็นเรื่องน่ากังวลใจ เพราะถือเป็นการนำเสียงของประชาชน ปะทะกับสถาบันโดยตรงไม่เหมาะสมและอันตราย ดังนั้น อย่านำเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างอีกเลย ทั้งนี้ มีหลายเรื่องที่เห็นตรงกันจำนวนมาก ที่ต้องบริหารจัดการ

เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีประเด็นพิจารณาคำร้องเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล กังวลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่กังวลใจ เพราะเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญกับอัยการสูงสุด การแก้ไขกฎหมายฉบับหนึ่งไม่เท่ากับการล้มล้างการปกครอง ตามที่กล่าวหาและคิดว่าข้อกล่าวหานี้เกินจริงไปมาก ทั้งนี้ ยืนยันว่ามีความตั้งใจที่จะรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างหนักแน่น

เมื่อถามว่า เมื่อพิจารณาไทม์ไลน์ของศาลรัฐธรรมนูญ จะคาบเกี่ยวกับวันโหวตนายกฯ จะเป็นเหตุผลที่ ส.ว.ยกมาอ้างเพื่อไม่โหวตสนับสนุนหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า “เชื่อว่าไม่เป็นไปอย่างที่เป็นข่าว ว่าจะนำเรื่องมาตรา 112 เป็นข้ออ้าง ที่จะไม่ทำมติของสภาฯ ล่าง จึงไม่เป็นประเด็นอะไร” และเมื่อถามถึงข้อสรุปของตำแหน่งประธานสภาฯ​ ที่พรรคก้าวไกลยืนยันมาตลอด นายพิธา กล่าวว่า ขอให้รอในวันที่ 28 มิถุนายน ที่จะประชุมร่วมกับพรรคเพื่อไทย และจะแถลงเรื่องดังกล่าว.