ด่วน! กกต.ประกาศรับรอง 500 ส.ส.แล้ว ให้มารับหนังสือรับรอง 20-24 มิ.ย.66

กกต. ไฟเขียวรับรอง 500 ส.ส.หลังสอบทุจริตไม่เสร็จภายใน 60 วัน ยันมีเวลาอีก 1 ปี หากพบทุจริตพร้อมสอยภายหลัง อุบตอบใช้ช่อง รธน. มาตรา 82 ยื่นศาลตีความสถานะ ‘พิธา’ ก่อนโหวตนายกฯ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 มิถุนายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงผลการประชุม กกต.ว่า สำนักงาน กกต.ได้เสนอผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขต 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน และผลการตรวจสอบรายงานจากความเห็นของผู้ตรวจการเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัด รายงานการตรวจสอบสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ได้รับเลือกตั้ง และตรวจสอบเรื่องร้องคัดค้านของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร รวมถึงแหล่งข้อมูลจากการตรวจสอบเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.ของกลุ่มภารกิจงานสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ทั้งนี้ เมื่อกกต.ได้พิจารณาแล้วจึงมีมติให้ประกาศผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อครบทั้ง 100 คน

นายแสวงกล่าวต่อว่า กระบวนการหลังจากนี้ กกต.ยังมีอำนาจพิจารณาการสืบสวนไต่สวนตามมาตรา 138 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 หมายความว่า หลังการเลือกตั้งหากมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริต กกต.จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง

เลขาฯกกต.กล่าวว่า การที่กกต.ประกาศรับรองผลไปก่อน เนื่องจากกระบวนการสืบสวนสอบสวนผู้ถูกร้องเรียนอาจดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และเห็นว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อีกทั้งขณะนี้มีการอ้างพยานหลักฐานเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยในจำนวน ส.ส. 400 เขต พบว่ามี ส.ส.ที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนคัดค้านการเลือกตั้ง 318 คน ถูกร้องคัดค้านการเลือกตั้ง 82 คน อย่างไรก็ตาม ส.ส.ที่ กกต.ประกาศรับรองสามารถมารับหนังสือรับรองได้ตั้งแต่วันที่ 20-24 มิถุนายน เวลา 08.30-16.30 น.ไม่เว้นวันหยุดราชการ

เลขาฯกกต.กล่าวอีกว่า ส่วนจำนวนคะแนนเสียงที่เป็นคะแนนดีนำมาคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมีทั้งสิ้น 31,522,698 คะแนน โดยสัดส่วนคะแนนต่อ ส.ส. 1 คน คือ 375,226 คะแนน เมื่อคำนวณแล้วมีจำนวน 17 พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้ง ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 39 คน พรรคเพื่อไทย 29 คน พรรครวมไทยสร้างชาติ 13 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน พรรคภูมิใจไทย 3 คน พรรคประชาชาติ 2 คน ส่วน พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคท้องที่ไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคเป็นธรรม พรรคพลังประชารัฐ พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคเสรีรวมไทย และ พรรคใหม่ ได้พรรคละ 1 คน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังประกาศรับรองแล้ว กกต.จะดำเนินการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 เลยหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในการพิจารณาของสำนักงาน ต้องดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และดูว่ามีการดำเนินการไปแล้วมากน้อยแค่ไหน ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ เมื่อถามย้ำว่า จะต้องยื่นเรื่องก่อนจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า กกต.ไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง การสอบสวนของ กกต.จะต้องสอบสวนให้สิ้นกระแสความ ถ้าเร็วก็เร็วโดยลักษณะงานที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจาก กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.อย่างเป็นทางการทั้ง 500 คนแล้ว ตามขั้นตอน ส.ส.ใหม่ ต้องเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยล่าสุดสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรประกาศการเตรียมรับรายงานตัว ส.ส.ชุดที่ 26 ตั้งแต่วันที่ กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ และ ส.ส.ได้รับหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้งเป็นต้นไป ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. เวลา 08.30-16.30 น. ที่ห้องสัมมนา ชั้น B1 อาคารรัฐสภา

ทั้งนี้ ภายหลัง กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ครบทั้ง 500 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนไม่ต่ำกว่า 95% ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส 2561 มาตรา 127 จากนั้นจะต้องมีพิธีเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรภายใน 15 วัน เพื่อให้ ส.ส.มาประชุมครั้งแรกในวันที่ 3 กรกฎาคม โดยมีวาระสำคัญคือ เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และ รองประธานสภา ทั้ง 2 คน