จับตา! ก้าวไกล-เพื่อไทย แถลงร่วมกัน เปิดชื่อ”ประธานสภา”22มิ.ย. ก้าวไกล ยัน แนวโน้มดี มั่นใจหาข้อสรุปวงถกได้ โดยมีชื่อของ “ณัฐวุฒิ บัวประทุม” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้า พรรคก้าวไกล ได้รับการคาดหมายจะได้นั่งเก้าอี้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ
วันที่ 19 มิ.ย.2566 ความเคลื่อนไหวที่พรรคก้าวไกล กรณีตำแหน่งประธานสภาฯ มีรายงานข่าว ระบุว่า พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย หารือลงตัวและพร้อมแถลงในวันที่ 22 มิ.ย. 66 นี้ ซึ่งเป็นวันที่ แกนนำ 8พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลนัดประชุมกัน โดยคาดว่าทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศรับรองส.ส. ในวันที่ 21 มิ.ย. 66 ทำให้จำเป็นต้องหาข้อยุติเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้น เพื่อที่จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป คือการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากพรรคก้าวไกล ยังระบุอีกว่า จากการพูดคุยของทางแกนนำทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล มีแนวโน้มดีขึ้น มั่นใจว่า จะไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น โดยมีสัญญาณว่า คณะเจรจายังไม่มีการกลับมาถกอะไรเพิ่มเติม ซึ่งตอนนี้กำลังเดินหน้าไปตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง แต่หากเกิดความขัดแย้งขึ้นก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถหาข้อยุติในวงถกได้ และไม่กระทบกับตำแหน่งประธานสภา
ทั้งนี้ เหตุผลที่พรรคก้าวไกล จำเป็นต้องนั่งเก้าอี้ประธานสภา ยังคงยืนยันว่า เพื่อผลักดันวาระทั้ง 3 ข้อตามนโยบายของพรรค คือผลักดันกฎหมายหาเสียงไว้อย่างน้อย45ฉบับ /ผลักดันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย /ผลักดันหลักการรัฐสภาโปร่งใสและประชาชนมีส่วนร่วม และไม่มีเหตุผลอื่น โดยสาเหตุที่ยังไม่เปิดเผยชื่อตอนนี้ เนื่องจากให้เกียรติพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลในการแถลงข่าวพร้อมกันครั้งเดียวแบบเป็นทางการ ส่วน รายชื่อประธานสภา คาดว่าเป็นไปตามโผของสื่อหลายสำนักได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยบุคคลที่ได้รับการคาดหมายว่าจะนั่งเก้าอี้ของพรรคก้าวไกล คือ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล
สำหรับ นาย ณัฐวุฒิ บัวประทุม อายุ 46 ปี จบปริญญาตรีด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโทกฎหมายจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เคยเป็นหัวหน้างานกฎหมาย มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก ก่อนหน้านี้ ณัฐวุฒิ บัวประทุม เคยให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชนว่า พร้อมกับการนั่งแท่นเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ถึงแม้ว่าจะมีประสบการณ์ทางการเมืองน้อย แต่เชื่อมั่นว่าสภาฯ ไม่ได้เป็นสภาฯ แบบโดด ๆ คนเดียว ยังมีเพื่อนสมาชิกสภาผู้ทนราษฎรร่วมกันทำงาน ที่สำคัญมีสมาชิกข้าราชการสภาฯ ที่อยู่กันมายาวนาน ยิ่งมีความรู้ความสามารถแนะนำได้ และเชื่อว่าชื่อของทุกคนที่ปรากฏก็มีความพร้อม แต่ท้ายที่สุดจะอยู่ที่การพูดคุย และขึ้นอยู่กับเสียงสมาชิกว่าจะเลือกใคร