ศึกชิงประธานสภา’ก้าวไกล-เพื่อไทย’ ยังไม่จบ คาดยืดเยื้อตัวแปรสำคัญตั้งนายกฯ

“ภูมิธรรม เวชยชัย” รองหัวพรรคเพื่อไทย ดีใจ กกต.เร่งประกาศรับรอง ส.ส. เดินหน้าฟอร์มรัฐบาล สั่งทีมกฎหมายพรรคดูแล 20 ว่าที่ส.ส.ที่ถูกร้องค้าน โยน ก้าวไกล ตอบกลับปมเก้าอี้ประธานสภา

วันที่ 16 มิ.ย.2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สอบคำร้องเรียน ว่าที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย 20 คนว่า ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการพิจารณาของ กกต. เท่าที่ทราบจำนวนที่ถูกสอบเป็นเพียงกระแสข่าว แต่ได้ให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคประสานแต่ละพื้นที่ เพื่อดูคำร้องเรียนเพื่อเตรียมการชี้แจง ต้องรอรายละเอียดที่ชัดเจนของ กกต.

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่กกต.เตรียมรับรอง ส.ส.วันที่ 21 มิ.ย. ถือเป็นข่าวดีหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ดี ถ้ากกต.ประกาศได้รวดเร็ว จะเป็นประโยชน์กับการฟอร์มรัฐบาล และการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวยังอยู่ในกรอบการพิจารณาของกกต.

เมื่อถามถึงความชัดเจนตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายภูมิธรรม กล่าวว่า จากเดิมที่คุยไว้จุดไหนก็ยังอยู่จุดนั้น เป็นเรื่องของพรรคแกนนำที่ต้องประสานกัน แต่การพูดคุยก่อนหน้านี้ เราได้บอกวัตถุประสงค์และความคิดไปแล้วว่าคิดอย่างไร ซึ่งพรรคก้าวไกลได้รับไปพิจารณา และตอนนี้ยังไม่ตอบกลับมา เรายังรออยู่เพราะให้เกียรติพรรคแกนนำ

สำหรับการประชุมแกนนำ 8 พรรคร่วมวันที่ 20 มิ.ย. ที่พรรคไทยสร้างไทย เป็นเจ้าภาพ จะหยิบเรื่องนี้มาคุยหรือไม่นั้น ที่ผ่านมาเราพยายามให้คณะกรรมการเปลี่ยนผ่านได้จัดทำนโยบาย แต่ครั้งนี้มีเรื่องที่สำคัญกว่า คือการดำเนินการไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อยให้ได้ ซึ่งเสนอกับพรรคแกนนำไปแล้วว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องรอพรรคแกนนำ

เมื่อถามว่าคณะทำงานชุดต่างๆ ที่หยิบยกแต่ละนโยบายไปดำเนินการ ได้พูดถึงตัวบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีมาดูแลเรื่องนั้นๆ บ้างหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกันเลย ทุกพรรค สามารถส่งตัวบุคคลที่สามารถทำความเข้าใจปัญหาและเสนอนโยบายที่เกี่ยวข้องเข้ามาได้ ขณะนี้เราเข้าใจร่วมกันอย่างดีว่า 12 คณะทำงานจะคอยรวบรวมข้อมูลข่าวสาร เพื่อสรุปจัดทำเป็นนโยบายและนำมาเสนอที่ประชุมหัวหน้าพรรค

สำหรับประธานสภา นับว่า มีความสำคัญในการคุมเกมประชุมสภา โหวตตั้งนายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดการแย่งชิงกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล เพราะเป็นการการันตีได้ในระดับหนึ่ง