“ณัฐชา” ซัด ผู้อำนาจการเมือง จงใจเล่นเกมสกปรก จ้อง ทำลาย “ก้าวไกล”

“ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์” ซัดเกมสกปรก จ้องเล่นงาน “ก้าวไกล” ไม่หวั่นโดนยุบพรรค เตือนผู้มีอำนาจระวังโดนลูกเหล็กสีส้มหล่นทับเละ ด้าน “ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล” ชี้ นิติสงครามไม่เหมือน 10 ปีก่อน เตือนคิดให้ดีๆ ประชาชนต้องการอะไร

วันที่ 3 มิ.ย.2566 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ว่าที่ ส.ส.กทม. และ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กำลังเผชิญคดีการถือครองหุ้นสื่อ ระหว่างเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล และกลัวหรือไม่ว่าพรรคก้าวไกลอาจจะถูกยุบพรรคได้อนาคต ว่า ไม่หวั่นไหวเลย เป็นเกมเดิมที่ผู้มีอำนาจหวังผลแบบเดิม โดยทดลองโยนหินถามทางกับประชาชน ตนเชื่อว่าครั้งนี้ต่อให้ผู้มีอำนาจจะโยนหินถามทางสักกี่ครั้ง ก็ยังไม่เห็นทิศทางไหนที่สดใสสำหรับผู้มีอำนาจในขณะนี้ จึงอยากให้ประชาชนรู้เท่าทันกลโกงของการใช้กลไกอำนาจแบบสกปรกหรือกลไกการใช้นิติสงคราม โดยที่ใช้ดุลพินิจตรรกะเข้าข้างตัวเองอย่างเดียว และขอให้ประชาชนไม่หลงลืมว่าวันนี้สถานการณ์เป็นอย่างไร และไม่หลงเชื่อกับสิ่งที่ผู้มีอำนาจกำลังจะใช้เกมเดิมในการทำลายนายพิธา และรัฐบาลพรรคก้าวไกล

เมื่อถามว่าไม่กลัวถูกยุบพรรคใช่หรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ไม่กลัวแน่นอน วันนี้ไม่ว่าจะข่าวถูกยุบ ไม่ว่าจะข่าวถูกตัดสิทธิ ไม่ว่าจะข่าวเลือกตั้งใหม่ ไม่ได้มีผลใดๆ กับเราเลย เราเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลของเราต่อ แล้วก็เดินหน้าพูดคุยเตรียมความพร้อมในการเป็นรัฐบาล สังเกตได้ว่าวันนี้นโยบายไหน ที่เราสัญญาทำว่า 100 วัน ก็ต้องเริ่มนับหนึ่งจนไปถึงร้อย ประชาชนกำลังคาดหวังรัฐบาลก้าวไกล อยู่ขอให้ประชาชนไปมุ่งหวังแล้วก็ไปโฟกัสเรื่องนี้ดีกว่า

“ส่วนเรื่องของผู้มีอำนาจที่เขาพยายามอยู่ ก็ให้เขาพยายามลมๆ แล้งๆ ไป ให้โยนหินมาหมดหน้าตัก ก็ไม่มีทางที่สดใสของเขา อยากบอกผู้มีอำนาจว่า ที่คิดว่าเป็นส้ม แล้วกำลังจะสอยให้หล่นนั้น ที่กำลังสอยอยู่ไม่ใช่ส้ม แต่วันนี้ก้าวไกลเป็นลูกเหล็กสีส้ม มีน้ำหนักจำนวนมากนะ หากสอยจนร่วงหล่นใส่ตัวเมื่อไหร่นั้น เละแน่นอน เพราะฉะนั้นอย่ามาหวังลมๆ แล้งๆ” นายณัฐชา กล่าว

ด้านนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ชี้โพรงเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ รวมถึงคดีหุ้นสื่อนายพิธา และคดีเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ว่าที่ ส.ส.ปทุมธานี นั้น พรรคก้าวไกลกำลังเจอกับนิติสงคราม อยู่หรือไม่ ว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่ แม้เป็นนิติสงครามก็จริงๆ แต่เป็นสิ่งที่มีการกระทำกันมาตั้งแต่ก่อนพรรคอนาคตใหม่ ตั้งแต่สมัยก่อนที่จะมีการรัฐประหารปี 2557 แต่บริบททางสังคมในปัจจุบันกับเมื่อ 10 ปีที่แล้ว มันไม่เหมือนกัน อีกทั้ง ประชาชนจับตามองเรื่องนี้ และทุกคนน่าจะเห็นแล้วว่ามันเป็นการทำร้ายกันทางการเมือง โดยใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือ แต่ต้นทุนในการทำสิ่งนี้ของผู้นำผู้มีอำนาจระหว่าง 10 กว่าปีที่แล้วกับวันนี้ มันไม่เหมือนกัน

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวอีกว่า เคยพูดบ่อยเเล้วว่า สุดท้ายแล้วปากกามันไม่ได้อยู่ที่เรา แต่อยากให้ทุกฝ่ายลองคิดให้ดีว่า ประเทศมันจะเดินหน้าไปได้อย่างไร เชื่อว่าหลายคน แม้กระทั่งคนที่ไม่เห็นด้วยกับก้าวไกล อยากเห็นประเทศไทยเดินไปข้างหน้า และอยากให้คิดทบทวนกันอย่างรอบคอบว่า การใช้วิธีการแบบเดิมๆ และการผูกขาดอำนาจไว้ที่กลุ่มตัวเอง บริบทสังคมวันนี้ มันทำให้ประเทศเดินหน้าได้จริงหรือไม่ หรือว่จะทำให้เกิดความวุ่นวาย ทุกวันนี้คนก็รู้มากขึ้นแล้วว่าเหตุการณ์หลายปีที่ผ่านมา เกิดอะไรบ้าง ทุกคนไม่มีใครอยากให้ประเทศพังทลายลง จึงขอให้ลองไตร่ตรองกันดีๆ เพราะในการเลือกตั้ง ประชาชนได้บอกแล้วว่าหนทางที่ประเทศควรจะเดินไปข้างหน้านั้นเป็นอย่างไร จะเดินไปทางไหน สุดท้ายแล้วชาติคือประชาชน พรรคคือประชาชน