ททท. ชู กลยุทธ์ ตลาดท่องเที่ยวคุณภาพ ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

ททท. ขับเคลื่อนกลยุทธ์ มุ่งตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน เผยตั้งแต่ 1 ม.ค.66 ถึง 27 พ.ค.66 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไยแล้ว กว่า 10 ล้านคน สร้างรายได้แล้ว 428,000 ล้านบาท

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงสถานการณ์ การท่องเที่ยวไทย พร้อมกลยุทธ์บุกตลาดศักยภาพ มุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ด้วยเป้าหมายการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน แก่ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว ทั้งไทยและต่างชาติ ที่เข้าร่วมในงาน Thailand Travel Mart Plus 2023 เมื่อ วันที่ 31 พ.ค. 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

โดย กล่าวว่า ททท. เดินหน้าขับเคลื่อนแผนการส่งเสริมตลาดอย่างเต็มกำลัง เพื่อผลักดันสู่เป้าหมายรายได้ 2.38 ล้านล้านบาท สำหรับนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ เร่งเครื่องด้วย Great Resumption Episode II ประกอบด้วย 5 กิจกรรม ได้แก่ China is back – มุ่งเจาะกลุ่มตลาดใหม่ในจีน พร้อมเพิ่มเที่ยวบินเพื่อรองรับความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน ควบคู่กับการส่งเสริมการเดินทางทางบก 7-Digit Target – เน้นกลุ่มตลาดศักยภาพในประเทศที่นักท่องเที่ยวเกิน 1 ล้านคนColor your life by Amazing Thailand – จัด Consumer Fair นำ Soft Power ไทยเข้าไปอยู่ในใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ Responsible Tourism – ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ และ Second Tier, second to none – เจาะกลุ่มเมืองรองในตลาดระยะใกล้

สำหรับตลาดระยะไกล เน้นการเพิ่มความถี่ และ ที่นั่งสายการบินสู่เมืองหลักและเมืองรองในประเทศไทย ร่วมทำงานกับพันธมิตร เพื่อเจาะกลุ่มตลาดใหม่ในเมืองหลักและเมืองรอง รวมถึงเชื่อมโยงสู่เมืองรองในประเทศไทย และ การส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวแบบ all-year round นอกจากนี้ ททท. ยังมุ่งนำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบ Luxury Experience ในกรุงเทพฯ จังหวัดพังงา และ จังหวัดภูเก็ต รวมถึงสินค้าและบริการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

อาทิ แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เหมาะกับกลุ่มครอบครัวในจังหวัดเชียงใหม่ และการพักผ่อนที่เสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ควบคู่ไปกับการมุ่งนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อาทิ การท่องเที่ยวชุมชนด้วยจักรยานที่คุ้งบางกระเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ การท่องเที่ยวแบบผจญภัยที่อุ้มผาง จังหวัดตาก การท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ที่จุดหมายปลายทางคาร์บอนต่ำ เกาะหมาก จังหวัดตราด และ Little Amazon คลองสังเน่ห์ จังหวัดพังงาทั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ททท. เดินหน้ายกระดับห่วงโซ่อุปทาน Shape Supply สู่เป้าหมายการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals: STGs) ซึ่งต่อยอด จาก 17 เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติ โดยสร้างมาตรฐานความยั่งยืน Sustainable Tourism Accelerating Rating (STAR) ให้ผู้ประกอบการนำไปใช้พัฒนาสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานในการให้บริการอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มประเภทรางวัล ‘ Low Carbon & Sustainability’ ในรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 การพัฒนาทักษะผู้ประกอบการและบุคลากรด้านการท่องเที่ยว รวมถึงการนำแพลตฟอร์มออนไลน์มาช่วยในการบริหารจัดการการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโรงแรมและแหล่งท่องเที่ยว

โดย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 จนถึงวันที่ 27 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 10,378,457 คน และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแล้วกว่า 428,000 ล้านบาท โดยประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย 1,606,373 คน จีน 1,098,604 คน รัสเซีย 734,995 คน เกาหลีใต้ 627,760 คน และอินเดีย 583,319 คน โดย ททท.เชื่อมั่นว่ารายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2566 จะกลับสู่ร้อยละ 80 ของรายได้ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ในปี 2562 โดยเป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 1.5 ล้านล้านบาท และ ตลาดในประเทศ 880,000 ล้านบาท