เด้งผู้การทางหลวง เซ่นส่วยสติ๊กเกอร์ เจ้าตัวทนเก้าอี้ร้อนไม่ไหว ขอย้ายตัวเอง

นายกสมาคมขนส่งแฉส่วยสติ๊กเกอร์ จ่ายเดือนละ 2 หมื่น วิ่งฉลุย ด่านไม่จับ ขณะ ผบช.ก. สั่งเด้งฟ้าผ่าผู้การทางหลวง เซ่นปมส่วยสติ๊กเกอร์ โโยเจ้าตัว เสนอตัวขอย้ายออกจากพื้นที่หลังถูกพาดพิง

วันที่ 30 พ.ค.2566 นายศิริชัย ศรีเจริญศิลป์ นายกสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เปิดประเด็นเรื่องการติดสติ๊กเกอร์ส่วยรถบรรทุกว่า ส่วยสติ๊กเกอร์นั้นมีมายาวนาน กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยพยายามบอกหน่วยงานของภาครัฐ แต่ไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร ทำให้มีการเก็บส่วยสติ๊กเกอร์อยู่ทั่วประเทศ

รูปแบบของสติ๊กเกอร์ติดรถ มีนับร้อยรูปแบบ ไม่มีเอกลักษณ์ตายตัว แต่ละเส้นทาง แต่ละหน่วยงานจะมีรูปแบบสติ๊กเกอร์แตกต่างกัน ผู้ขับขี่รถบรรทุกและเจ้าหน้าที่จะรู้และตกลงกันเองแต่ละเส้นทางเดินรถ เช่น จากภาคเหนือ เชียงราย เชียงใหม่ มานครสวรรค์ ใช้สติ๊กเกอร์เฉพาะเส้นทาง มีรูปแบบหรือสัญลักษณ์เฉพาะตัว ส่วนเส้นทางอื่น เช่น นครสวรรค์เข้ากรุงเทพฯ จะติดสติ๊กเกอร์แตกต่างกันออกไป

การจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่มีหลายรูปแบบ เช่น สติ๊กเกอร์วิ่งสายใกล้ วิ่งเฉพาะตัวจังหวัด ต้องจ่ายเงิน 4-5 พันบาท/เดือน วิ่งในภาคจ่ายประมาณ 1 หมื่นบาท/เดือน วิ่งระหว่างภาค แต่ไม่ข้ามภาคจ่าย 17,000-20,000 บาท/เดือน ส่วนสติ๊กเกอร์ประเภทโอเพ่นคือวิ่งในภาค อ้างว่าดูแลเจ้าหน้าที่ครบทุกหน่วยงาน วิ่งพร้อมบรรทุกเกินน้ำหนักได้โดยไม่ถูกจับต้องจ่ายเงินกว่า 20,000 บาท/เดือน การจ่ายเงินนั้นคาดว่าจะจ่ายเงินตั้งแต่ระดับท้องถิ่นทั้งตำรวจภูธรและตำรวจทางหลวงแต่ละพื้นที่ไปจนถึงระดับภูมิภาคหรือส่วนกลาง ตำรวจทางหลวงจะดูแลถนนสายหลักที่มีเลขถนนหลวง 1 หลัก 2 หลัก และ 3 หลัก ส่วนตำรวจภูธรจะดูแลถนนหลวงในพื้นที่ของตน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้ลงนามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ 172/2566 ลงวันที่ 30 พ.ค.2566 ให้ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเดิม พร้อมกันนี้ ยังได้ลงนามคำสั่งที่ 173/2566 ลงวันที่ 30 พ.ค.2566 ให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทน ผบก.ทล. อีกตำแหน่ง โดยมีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ พล.ต.ท.จิรภพยังมีคำสั่งแต่งตั้งให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการเปิดโปงเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์อีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ ก็เพื่อให้การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความโปร่งใสไร้ข้อเคลือบแคลงจากสังคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำสั่งโยกย้ายตำแหน่งครั้งนี้ สืบเนื่องจากหลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องดังกล่าวขึ้นมา ทาง พล.ต.ต.เอกราช ในฐานะ ผบก.ทล. เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ถูกพาดพิงถึง จึงตัดสินใจเดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.จิรภพ เพื่อขอให้โยกย้ายตำแหน่งตนเองมาประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ส่วนกรณีที่มีการเลือก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เข้ามารับหน้าที่รักษาราชการแทน ผบก.ทล.นั้น เนื่องจากเป็นที่ยอมรับเกี่ยวกับเรื่องการปราบปรามทุจริตในหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ การเข้ามาทำหน้าที่ตรงจุดนี้จะช่วยให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้นไร้ข้อเคลือบแคลงสงสัยและเป็นที่เชื่อมั่นจากสังคม ด้าน พล.ต.ท.จิรภพกล่าวว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว จะเป็นไปด้วยความตรงไปตรงมา พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำการทุจริตเป็นอันขาด