จนท.ตม.มาเลเซีย บุกตรวจสอบโรงแรมระดับ3 ดาวรอบเกาะ มะละการายา หลังสืบทราบมีการค้าประเวณี จับกุมได้ 7 ราย เป็น หญิงอินโดฯ 5 และ ไทย2 ขณะเดียวกัน บุกทลายโรงงานอุตสาหกรรม พบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย ได้บุกค้นและตรวจสอบห้องต่างๆภายในโรงแรมระดับ 3 ดาวหลายแห่งรอบเกาะ มะละการายา หลังจากได้รับรายงานมีหญิงชาวต่างลักลอบค้าประเวณี หรือเสนอกิจกรรมที่ผิดศีลธรรมผ่านแอปพลิเคชัน weChat ซึ่งมีค่าบริการอยู่ระหว่าง 230 -800 ริงกิต ขึ้นอยู่กับแพ็คเกจบริการ โดยสามารถจับกุมผู้หญิงต่าง 7ราย เป็นหญิงชาวอินโดนีเซีย 2 ราย ชาวไทย 5 ราย และ ชายชาวต่างชาติ1 ราย เป็นคนไทย
โดยทั้งหมดถูกจับกุมเนื่องจากไม่แสดงเอกสารประจำตัวและฝ่าฝืนเงื่อนไขของบัตรผ่าน/ใบอนุญาตที่ออกให้ ตรวจพบถุงยางอนามัย สารหล่อลื่น และโทรศัพท์มือถือหลายเครื่อง นอกจากนี้ ลูกค้าและผู้จัดการโรงแรมยังได้รับหมายเรียกไปเป็นพยานเพื่อช่วยในการสอบสวนและดำเนินการต่อไป
สรุปผลการดำเนินการตรวจค้นจับกุมทั้งหมด เป็นคนต่างด้าวรวม 41 ราย ประกอบด้วย เมียนมาร์ 23 ราย ไทย 6 ราย จีน 5 ราย อินโดนีเซีย 5 ราย และ บังคลาเทศ 2 ราย โดยชาวต่างชาติที่ถูกจับกุมทั้งหมดถูกส่งไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งรัฐมะละกาเพื่อสอบสวนและดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้ ตรวจค้น โรงงานรีไซเคิลในเขตอุตสาหกรรม Bukit Rambai โดย สตม.บุกตรวจเข้มโรงงานต้องสงสัยจ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย สภาพโรงงานที่ถูกปิดและล้อมด้วยรั้วสังกะสี ปรากฏว่า เมื่อเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปในโรงงาน เมื่อมีทำให้คนงานต่างด้าวเกือบทั้งหมด ตื่นตระหนกและวิ่งหลบหนีไปที่พุ่มไม้เพื่อเอาตัวรอดจากการถูกจับกุม บางคนปีนกำแพงเพื่อข้ามไปยังโรงงานที่อยู่ติดกัน เพราะพวกไม่มีเอกสารการเดินทางและใบอนุญาตทำงานที่ถูกต้องจนบางคนได้รับบาดเจ็บที่ขาจากการเหยียบรั้วสังกะสี
เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจเพิ่มเติมแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในขณะนั้นรวม 39 คน และจับกุมคนต่างด้าวได้ทั้งหมด 33 คน เป็น ชาย 31 คน หญิง 2 คน พบความผิด การเข้ามาและพำนักในมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายโดยไม่มีเอกสารประจำตัว การอยู่เกินกำหนด และความผิดอื่น ๆ ภายใต้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง 1959/63 (พระราชบัญญัติ 155) เจ้าของโรงงานได้ออกหมายเรียกพยาน (แบบ 29) เพื่อสอบสวนและดำเนินการต่อไป
