“ก้าวไกล” อ้างรักษาประเพณี ตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องเป็นของ พรรคอันดับ 1

“รังสิมันต์” ชี้ “ประธานสภาฯ” ควรเป็นของพรรคอันดับ1 โยน ถาม “ชัยธวัช” เรื่องรายละเอียด ชี้ ส.ว. ควรปิดสวิตซ์ตัวเอง ขณะ “อมรรัตน์-ศิริกัญญา” ยืนยัน เก้าอี้ประธานสภาฯ ต้องเป็นของ “ก้าวไกล”

วันที่ 24 พ.ค.2566 ที่พรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความเตือน ก้าวไกลอย่าเสียตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นอันขาด ว่า อันที่จริงก็เหมือนกับที่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคกล่าวไกล ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า ในเรื่องของตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตำแหน่งที่พรรคก้าวไกล อยากรักษาประเพณีที่เคยทำกันมา ซึ่งในอดีตหากไม่นับรวมเมื่อปี 2562 จะพบว่า พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งเป็นลำดับที่ 1 จะขอตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วย เพื่อผลักดันกฎหมายต่างๆ พรรคก้าวไกลยืนยันว่า ตำแหน่งดังกล่าวทางพรรคก้าวไกลต้องขอเอาไว้เอง

เมื่อถามว่า มีพรรคการเมืองใดมาต่อรองตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้วหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ แต่เบื้องต้นพรรคก้าวไกลได้ประกาศมาหลายครั้ง และยืนยันในเรื่องนี้มาโดยตลอด และต่อข้อถามว่าได้พูดคุยกับพรรคเพื่อไทยในประเด็นนี้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องถามนายชัยธวัช เพราะเป็นผู้ดูแลการเจรจาในพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจะตอบคำถามได้ดีที่สุด

ถามว่า นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งประธานสภาหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ในรายละเอียดทางพรรคก้าวไกล ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันว่าใครเหมาะจะเป็นแคนดิเดตในตำแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งคิดว่าพรรคก้าวไกลยังมีเวลาคุยว่าจะมีใครที่มีความเหมาะสม

เมื่อถามถึงจำนวน ส.ว. ที่ยกมือโหวต นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีอาจยังไม่เพียงพอ จะมีการดำเนินการอย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบยังเห็นว่า มีอีกหลายคนที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงมติไปในทิศทางไหน เข้าใจว่าคงจะรอดูก่อน ซึ่งตนคิดว่ายังมีเวลาที่จะเจรจาพูดคุย เพื่อจะนำไปสู่การปลดล็อคมาตรา272 ซึ่ง มาตรา272 อนุญาตให้ ส.ว. สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งตนมองว่ามาตราดังกล่าวอยู่ในบทเฉพาะกาล เป็นกฎหมายชั่วคราวที่ปีหน้าก็หมดแล้ว ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องรอให้หมดตามรัฐธรรมนูญ ทำไมถึงไม่ช่วยกัน ปิดสวิตซ์ ม.272 เสียตั้งแต่ตอนนี้

ถามว่ามี ส.ว. หลายคน ยังมองว่า ม.112 ยังเป็นเงื่อนไขอยู่ แม้ไม่มีใน MOU ก็ตาม แต่นายพิธา ยังแถลงว่าพรรคจะเสนอเข้าในสภา อาจเป็นเงื่อนไขที่ไม่ยกมือให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องไปดูจริงๆ ว่าเงื่อนไขเป็นเพราะมาตรา 112 หรือไม่ หากยังมีการตั้งคำถามไปเรื่อยๆ เกี่ยวกับมาตรา 112 ก็ต้องกลับไปดูว่าจริงๆแล้วอาจจะไม่เกี่ยวกับมาตรา 112 แต่อาจเป็นการที่จะไม่โหวตให้พรรคก้าวไกลไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ของ ส.ว.

ทางด้าน นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล แกนนำพรรคก้าวไกล (ก.ก.) โพสต์สื่อสังคมออนไลน์ทั้งเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ว่า “ประธานสภา” กระดุมเม็ดแรกของก้าวไกลเพื่อผลักดัน กม.ก้าวหน้า

ในขณะที่ก่อนหน้านี้ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ก.ก.ได้แถลงความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล หลัง 7 พรรคร่วมลงนามเอ็มโอยู โดยเฉพาะตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าต้องเป็นของพรรคก้าวไกล เพื่อการทำงานตามกลไกระบบสภาให้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และผลักดันกระบวนการทำงานรัฐสภาที่โปร่งใส รวมถึงการเชื่อมต่อการทำงานยุวชนสภา ซึ่งตำแหน่งประธานสภา พรรคก้าวไกลมีบุคคลที่มีความสามารถหลายคน แม้จะถูกมองว่า มีอายุน้อย แต่เป้าหมายของพรรคที่ต้องการนำบุคคลรุ่นใหม่มีความสามารถมาทำหน้าที่ในระยะเปลี่ยนผ่าน