เลขาฯกก. ขอคุยส.ว.ยกมือให้ ‘พิธา’ เป็นนายกฯ เชื่อคงไม่มีใครอยากเห็นทางตัน

เลขาธิการพรรคก้าวไกล เชิญหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลมาหารือถึงแนวทางเบื้องต้น รับหากมีโอกาสอยากคุยส.ว.ยกมือให้ ‘พิธา’ เป็นนายกฯ เชื่อมีวุฒิภาวะคงไม่อยากเห็นทางตันทางการเมือง

วันที่ 17พ.ค.2566 ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า วันนี้ พรรคก้าวไกลจะเชิญ หัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาล มาพูดคุยกัน หากบรรลุข้อตกลงเบื้องต้น จะแถลงต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ส่วนสถานที่ในการพูดคุยขอไม่เปิดเผย เพราะอยากคุยอย่างเป็นกันเองก่อน โดยจะมีการพูดคุยถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ยังไม่ได้ลงรายละเอียด MOU เนื่องจากต้องใช้เวลา เป็นกระบวนการหลังจากนี้

เมื่อถามว่าในฐานะที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะมีการตั้งเงื่อนไขอะไรหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า วันนี้พูดถึงแนวทางเบื้องต้นไม่ได้ลงรายละเอียด เรื่องวาระหลักที่พรรคร่วมรัฐบาลจะผลักดันกันคงจะเป็นหลังจากนี้ ส่วนกระแสสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่อาจจะไม่โหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า ส.ว.หลายท่านมีวุฒิภาวะคงไม่อยากเห็นทางตันทางการเมือง

เมื่อถามว่าการพูดคุยในวันนี้จะหารือขอให้ฝ่ายค้านสนับสนุนนายพิธา โดยไม่ร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คงไม่ใช่บทบาทของพรรคก้าวไกล ไม่สามารถที่จะก้าวก่ายแทรกแซงการตัดสินใจของแต่ละพรรคการเมืองได้ วันนี้จะเน้นพูดคุยภายในพรรคร่วมรัฐบาลชุดใหม่เป็นหลัก หากมีโอกาสจะประสานงานพูดคุยกับ ส.ว.ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้เพื่อทำความเข้าใจ และคลายความกังวลในส่วนที่มีมายาคติต่อพรรคก้าวไกล ทั้งนี้ไม่ได้กังวลที่จะไปพูดคุยกับ ส.ว. เนื่องจากการพูดคุย เปิดใจคุยกันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดย่างหนักยิ่งขึ้น เพราะกระแสพรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้ง ส.ส.ในหัวเมืองสำคัญๆ ที่สำคัญชนะแบบไม่ต้องซื้อเสียงเลย หากมีการพิจารณาข้อหาแบบนี้ กระทำผิดหลายคน และเลือกปฏิบัติ คนที่ตัดสินใจยุบพรรค อาจจะหมดความชอบธรรม”

ต่อข้อถามว่าวันนี้จะคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านให้สนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่ร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ คงไม่ใช่บทบาทของพรรคก้าวไกล ไม่สามารถที่จะก้าวก่ายแทรกแซงการตัดสินใจของแต่ละพรรคการเมืองได้ วันนี้จะเน้นพูดคุยภายในพรรคร่วมรัฐบาลชุดใหม่เป็นหลัก หากมีโอกาสจะประสานงานพูดคุยกับ ส.ว.ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้เพื่อทำความเข้าใจ และคลายความกังวลในส่วนที่มีมายาคติต่อพรรคก้าวไกล ทั้งนี้ไม่ได้กังวลที่จะไปพูดคุยกับ ส.ว. เนื่องจากการพูดคุย เปิดใจคุยกันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด