ปชป. เปิดชุดนโยบาย พัฒนาศก.ใต้ ดัน เมกะโปรเจ็กต์ หนุนหาดใหญ่เป็นขุมทอง

น่าสนใจยิ่งกับการเปิดชุดนโยบายแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ “ปลายด้ามขวาน” ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โดยทีมเศรษฐกิจนำโดย “พิสิฐ ลี้อาธรรม” และ “สามารถ ราชพลสิทธิ์” ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะผลักดัน 4 เม็กกะโปรเจ็กต์ยักษ์ หนุนหาดใหญ่ ขึ้นแท่นเป็นขุมทองทางเศรษฐกิจ เชื่อมระบบขนส่งคมนาคมในอนาคต

ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม อดีตรมช.กระทรวงการคลัง และ ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ อยู่กับพรรคมายาวนาน ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. ผู้เชี่ยวชาญ ด้านคมนาคมขนส่งโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ก็อยู่กับประชาธิปัตย์มานานเช่นกัน

“สามารถ” ชู 4 เม็กกะโปรเจ็กต์ ดันหาดใหญ่ เชื่อมไทย-เชื่อมโลก

ดร.สามารถ กล่าวถึงวิสัยทัศน์ “เร่งเมกะโปรเจกต์ ดันหาดใหญ่ เชื่อมไทย-เชื่อมโลก” ว่า หาดใหญ่ มีทำเลยุทธศาตร์ในการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภาคใต้ ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องขับเคลื่อนหาดใหญ่ ด้วยระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ เพื่อผลักดันให้เป็นขุมทองทางเศรษฐกิจของปลายด้ามขวานไทย โดยพรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในหาดใหญ่ และพื้นที่ใกล้เคียง ดังนี้

1.โมโนเรล คือ รถไฟฟ้า ที่วิ่งคร่อมรางโดยใช้รางเดี่ยว หรือ อาจจะแขวนห้อยอยู่ใต้รางก็ได้ แต่ที่นิยมใช้กันมากก็คือ แบบคร่อมราง โดยหาดใหญ่เช่นเดียวกับเมืองใหญ่อื่น ๆ ที่มีปัญหารถติดในชั่วโมงเร่งด่วน องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา สมัย นายนิพนธ์ บุญญามณี เป็นนายก อบจ.ได้ริเริ่มโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือ โมโนเรลขึ้น โดยระยะที่ 1 ยาว 13 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 16,000 ล้านบาท มี 15 สถานี ประกอบด้วย สถานีควนลัง แยกสนามบิน รถตู้ หาดใหญ่ใน ชุมทางรถไฟหาดใหญ่ ตลาดกิมหยง น้ำพุ หาดใหญ่วิทยาลัย บิ๊กซี คอหงส์ มอ. คลองเรียน เซ็นทรัล คลองหวะ และ บ้านพรุ

ระยะที่ 2 จะขยายเส้นทางจากสถานีน้ำพุไปยังถนนลพบุรีราเมศร์ และ จากสถานีคอหงส์ไปยังสวนสาธารณะหาดใหญ่ ส่วนระยะที่ 3 จะมีเส้นทางเชื่อมระหว่างสถานีหาดใหญ่ใน กับ สถานีคลองเรียนโดยวิ่งผ่านโรงเรียนพัฒนศึกษาและศูนย์การค้าไดอาน่า

“โมโนเรล” จะไม่ส่งผลกระทบต่อ รถตุ๊กตุ๊ก รถสองแถว และ วินมอเตอร์ไซค์ ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ในทางกลับกัน “โมโนเรล” จะช่วยให้รถตุ๊กตุ๊ก รถสองแถว และวินมอเตอร์ไซค์ มีเส้นทางการให้บริการเพิ่มขึ้น ได้แก่ เส้นทางระหว่างแหล่งที่อยู่อาศัยกับสถานีโมโนเรล และเส้นทางระหว่างแหล่งทำงานและสถานศึกษากับสถานีโมโนเรล

“เวลานี้ผมมีผลการศึกษา และแบบเบื้องต้นอยู่ในมือแล้ว การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ก็ผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ จะผลักดันให้ โมโนเรลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหารถติดในเมืองหาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี”

2. รถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ รถไฟทางคู่หมาย ถึง ทางรถไฟที่ประกอบด้วยเหล็กรางรถไฟ 4 ราง หรือ ใช้เหล็กรางรถไฟ 4 เส้น รถไฟทางคู่ จะช่วยประหยัดเวลาการเดินทาง และ การขนส่งสินค้าได้มาก เพราะสามารถวิ่งสวนทางกันได้ ไม่ต้องรอสับหลีกที่สถานี รถไฟทางคู่เปรียบเหมือนกระดูกสันหลัง ของโครงข่ายรถไฟ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ริเริ่มโครงการรถไฟทางคู่ขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2536

ดร.สามารถ กล่าวต่อว่า พรรคจะเดินหน้าก่อสร้างรถไฟทางคู่ต่อไปให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยจะเร่งผลักดันโครงการรถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ซึ่งเป็นรถไฟที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เพื่อรองรับรถไฟจากประเทศมาเลเซียที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเช่นเดียวกัน

หากมีชาวมาเลเซียนั่งรถไฟนี้มาหาดใหญ่วันละ 2,000 คน หรือ ปีละ 730,000 คน สมมติว่าคนหนึ่งมีค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาที่อยู่ในหาดใหญ่ 15,000 บาท ก็จะมีเงินหมุนเวียนในหาดใหญ่ปีละประมาณ 11,000 ล้านบาท อีกทั้ง รถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ จะช่วยกระตุ้นให้การค้าชายแดนระหว่างไทยกับมาเลเซีย พุ่งสูงขึ้นจากเดิมในปี พ.ศ. 2565 ที่มีมูลค้าการค้า 660,392 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการค้าชายแดนที่สูงที่สุดของประเทศ

รถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร มีมูลค่าโครงการประมาณ 6,700 ล้านบาท เส้นทางนี้จะเชื่อมต่อไปสู่กรุงเทพฯ โดยจะบรรจบกับรถไฟทางคู่ ที่เวลานี้สร้างมาถึงชุมพรแล้ว เมื่อมีรถไฟทางคู่จากหาดใหญ่ถึงกรุงเทพฯ เวลาการเดินทางจะลดลงจาก 16 ชั่วโมง เหลือเพียง 8-10 ชั่วโมงเท่านั้น ประหยัดเวลาลงได้ครึ่งหนึ่ง “แบบก่อสร้างเสร็จแล้ว และการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ก็ผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว พรรคประชาธิปัตย์จะเร่งรัดให้มีการก่อสร้างโดยเร็ว”

3. มอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดา มอเตอร์เวย์ เป็นถนนที่รถวิ่งได้เร็ว รถไม่ติด ก็เหมือนกับทางด่วนนั่นเอง พรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้จัดทำแผนแม่บทมอเตอร์เวย์ทั่วประเทศ และได้ก่อสร้างมอเตอร์เวย์เส้นทางแรกของประเทศไทยคือเส้นทางกรุงเทพฯ-ชลบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2537 ซึ่งพรรคจะเดินหน้าก่อสร้างมอเตอร์เวย์อีกต่อไป

ดร.สามารถ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จะเร่งผลักดันโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์จตุรทิศ เชื่อมใต้สุดกับเหนือสุด และตะวันตกกับตะวันออกของประเทศไทย ประกอบด้วย 3 เส้นทาง คือ

(1) เส้นทางสุไหงโกลก-พัทลุง-ทุ่งสง-นครปฐม ระยะทาง 1,100 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้ทุ่งสงเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าของภาคใต้

(2) เส้นทางด่านแม่สาย ด่านเชียงของ-เชียงใหม่-บางปะอิน ระยะทาง 853 กิโลเมตร

(3) เส้นทางแม่สอด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 710 กิโลเมตร สำหรับมอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดานั้น มีระยะทาง 71 กิโลเมตร วงเงิน 40,787 ล้านบาท เริ่มจากบ้านควนทรายทองถึงทางเข้าด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ แบบก่อสร้างเสร็จแล้ว

ขณะที่การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ก็ผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว กำลังรอหารือเรื่องถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่-ด่านบูกิตกายูฮิตัม ของ มาเลเซียในเร็วๆ นี้ เช่นเดียวกับรถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ มอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดา จะช่วยกระตุ้นให้การค้าชายแดนระหว่างไทยกับมาเลเซียพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน

4. สะพานเชื่อมเกาะสมุย ตนเป็นผู้ริเริ่มโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะสมุย โดยได้เสนอความเห็นไว้ในเฟซบุ๊กเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 โดยจะก่อสร้างระหว่างบริเวณด้านใต้ของแหลมทาบ หรือ แหลมประทับ ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของท่าเรือดอนสัก เป็นพื้นที่ใน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ไปที่แหลมหินคมบนเกาะสมุย จะได้แนวสะพานที่เหมาะสม มีระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร

รูปแบบสะพานจะเป็นสะพานขึง (Cable Stayed Bridge) มี 4 ช่องจราจร หรือ ข้างละ 2 ช่องจราจร หากมีสะพานเชื่อมเกาะสมุยจะใช้เวลาข้ามทะเลแค่เพียงประมาณ 20 นาทีเท่านั้น ต่อไปเมื่อนักท่องเที่ยวมาหาดใหญ่แล้วจะไปเที่ยวต่อที่สมุยก็สะดวก ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเที่ยวหาดใหญ่มากขึ้น เพราะสามารถเดินทางไปเที่ยวที่อื่นได้ด้วยในระยะเวลาไม่นาน

ขณะเดียวกันรัฐบาลปัจจุบันได้นำแนวคิดนี้มอบให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยไปดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้และออกแบบเบื้องต้น และพรรคประชาธิปัตย์จะติดตามเร่งรัดการดำเนินโครงการนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางของชาวสุราษฎร์ธานี ชาวนครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ

ดร.สามารถ กล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเร่งรัดการก่อสร้างเมกะโปรเจกต์ด้านคมนาคมขนส่งในเมืองหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อทำให้หาดใหญ่เชื่อมโยงกับพื้นที่อื่นทั้งในและต่างประเทศได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสการแข่งขัน เพิ่มโอกาสการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิต ประหยัดค่าใช้จ่ายการเดินทางและการขนส่งสินค้า ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง ลดมลพิษ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมรับกระแสโลกในการลดก๊าซเรือนกระจก และฝุ่น PM 2.5

นี้เป็นเมกะโปรเจ็คที่ พรรคประชาธิปัตย์ริเริ่ม และจะเร่งรัดให้เกิดขึ้นโดยเร็ว แน่นอนว่า ถ้า 4 โปรเจ็คแล้วเสร็จ จะเชื่อมโยงระบบขนส่งระบบรางได้อย่างสมบูรณ์แบบ อันจะเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และลดเวลาในการเดินทางลงด้วย โครงสร้างพื้นฐานอื่นๆก็จะตามมารองรับ เช่น ถนนมุ่งตรงจากสนามบินหาดใหญ่ ไปยังถนนรอบทะเลสาปสงขลา โยงไปยังสะพานข้ามทะเลสาปสงขลา จาก อ.กระแสสินธ์ จ.สงขลา ไปยัง อ.ควนขนุน ของ จ.พัทลุง อีกด้วย

#4โปรเจ็คยักษ์ประชาธิปัตย์
#หาดใหญ่ขุมทอง