กล่าวถึงการเมืองในนครศรีธรรมราช เมื่อยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ยิ่งน่าติดตาม และมีเรื่องน่าจับตามองกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
กล่าวได้ว่า การเมืองในนครศรีธรรมราช ยังคงเป็นการต่อสู้กันของ 4 พรรคการเมืองใหญ่ ตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้ง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พลังประชารัฐ (พปชร.) รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และ ภูมิใจไทย (ภท.) แต่ในช่วงท้ายๆของการหาเสียง เมื่อบวกรวมกับ กระแสพรรคก้าวไกล (กก.) จึงมีคนจับตามองไปยังผู้สมัครพรรคก้าวไกล ในบางเขตเลือกตั้ง ตามผลโพลของบางสำนัก เช่น เขต 1 เริ่มปรากฏชื่อของ “แมน-ปรณ์ อารีกุล” คนรุ่นใหม่ที่ขยันลงพื้นที่ เมื่อบวกรวมกับกระแสพรรค จึงดีดตัวขึ้นมาอยู่ในระดับคู่ชิงอีกคนหนึ่งจากการเฝ้าติดตามการเมืองในนครศรีธรรมราชมาอย่างใกล้ชิด ยังเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ เจ้าถิ่นเดิมน่าจะคว้าชัยได้ในระดับ 5+ ซึ่งหมายถึง 5 คนน่าจะได้ชัวร์ๆ และ อาจจะได้เพิ่มในบางเขตเลือกตั้ง 1-2 เขต
ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ต้องยอมรับความจริงว่า “อยู่ในช่วงขาลง” จากเดิมที่เคยมี ส.ส.อยู่ 4 คน คือ ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ,สัญหพจน์ สุขศรีเมือง,สายัณห์ ยุติธรรม และ อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ แต่คราวนี้ “สายัณห์” ไปอยู่กับลุงตู่ ที่รวมไทยสร้างชาติ เขตแห่งความหวัง จึงเหลืออยู่ที่เขต 1 “ดร.รงค์” แต่ต้องสู้กันหนักกับ “ราชิต สุดพุ่ม” จากพรรคประชาธิปัตย์ แถมยังมี “จรัญ ขุนอินทร์” จากพรรคภูมิใจไทย มาคอยตอดคะแนนไปด้วย “ดร.รงค์” จึงอยู่ในฐานะน่าหวาดเสียว แม้จะมี “สองโก” มาช่วย ก็ยังหนักกับเครือข่ายของ “ราชิต” แถมยังมี “สมนึก เกตุชาติ” อดีตนายกเทศมนตรีนครศรีธรรมราช มาช่วยอีกแรง ทำให้ “ดร.รงค์” เบาใจไม่ได้เลยแต่น่าแปลก “สัญหพจน์ สุขศรีเมือง” อดีต ส.ส.แท้ๆ กลับไม่ค่อยมีกระแส โพล ทุกสำนักไม่มีชื่อ “สัญหพจน์” อยู่ในลำดับที่จะได้เลย เขตนี้กลับมีชื่อของ “โก้เท่ห์” พิทักษ์เดช เดชเดโช คนใหม่จากประชาธิปัตย์ ทายาทของ “วิฑูรย์ เดชเดโช” อดีตนายกฯ อบจ.นครศรีธรรมราช และ เป็นลูกชายของ “กนกพร เดชเดโช” นายกฯอบจ.นครศรีธรรมราช คนปัจจุบัน ยืนโดดเด่นกว่า โดยมี “มานะ ยวงทอง” จากภูมิใจไทย และ “นนทิวรรตน์ นนท์ภักดิ์” จากพรรครวมไทยสร้างชาติขึ้นมาเป็นคู่ชิง
ส่วน “อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” อดีต ส.ส.พลังประชารัฐ สองปี เพราะมาจากการเลือกตั้งซ่อม ยังทำงานได้ไม่เต็ม 100 เจอคู่แข่งเดิม “พงศ์สิน เสนพงศ์” ที่ย้ายจากประชาธิปัตย์ ไปอยู่รวมไทยสร้างชาติ แถมยังมีเจ้าถิ่น “ณัฐกิตติ์ หนูรอด” จากพรรคภูมิใจไทย มาร่วมชิงด้วย “อาญาสิทธิ์” จึงอยู่ในฐานะเข็นครกขึ้นเขา
กล่าวสำหรับพลังประชารัฐ ควรให้น้ำหนักกับ “สุนทร รักษ์รงค์” เขต 8 ที่เขามีฐานเสียงอยู่กับ ชาวสวนยาง ชาวสวนปาล์ม แต่เขาต้องไปสู้กับทายาทของ “ชิณวรณ์ บุณยะเกียรติ์” คือ “น้องบีท” ปุณณสิริ บุณยเกียรติ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ “สุนทร” ก็จะนิ่งนอนใจไม่ได้เหมือนกัน เพราะเขตนี้ยังมี “มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล” จากพรรคภูมิใจไทย เดินคู่กันมาอีกคน ที่ในทางการเมืองไม่ควรมองข้าม กับการเป็น สจ.มาก่อน และเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเธอลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.กับคะแนน 18,000 คะแนน ก็ถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับประชาธิปัตย์ 5 ที่นั่งเป็นตัวตั้ง คือ ชัยชนะ เดชเดโช แต่ให้ระวัง สจ.สนั่น พิบูลย์ ที่คราวนี้สู้จริงในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเขามีฐาน ที่เหนียวแน่อยู่จุฬาภรณ์ ในฐานะ สจ. และ ยังมี “สจ.ยา” จากลานสกา มาช่วยอีกแรง “ชัยชนะ” ก็จะชะล่าใจไม่ได้เช่นกัน ขณะที่ ชิณวรณ์ บุณยเกียรติ์ ยังลงเขต7 เหมือนเดิม เชื่อกันว่า น่าจะสอบผ่าน แต่อย่าลืมว่า เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา “ชิณวรณ์” ก็ชนะไม่มาก และ คราวนี้ พรรคภูมิใจไทย ไปได้ “ษฐา ขาวขำ” อดีตนายอำเภอ มาลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็ทำให้ “ชิณวรณ์” ต้องหวั่นไหว ยิ่งโค้งสุดท้าย ญาติๆจากพัทลุง กระโดดเข้ามาช่วย ส่งท่อน้ำเลี้ยงเข้าใน “นายอำเภอษฐา” ก็มีกำลังใจขึ้น ยิ่งมีผู้มากบารมีจากปากพนังขนญาติมาช่วยอีกแรง สถานการณ์นี้จึงไม่ควรมองผ่าน “ษฐา” จากภูมิใจไทยนอกจากนี้ก็จะมี “ประกอบ รัตนพันธ์” ที่มีคู่แข่งทั้งจาก ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ และ พลังประชารัตน์ อีกคนคือ “โก้เท่ห์ -พิทักษ์เดช”นี้แหละ อีกคนของประชาธิปัตย์ คือ “สจ.ศรี” อวยพรศรี เชาวลิตร เขต 9 โซนท่าศาลา พรหมคีรี แต่ “สจ.ศรี” ก็ต้องเดินก้าวผ่าน “หมอผึ้ง”นันทวัน วิเชียร จากพรรคภูมิใจไทย หญิงสาวพรหมคีรีผู้ขยัน และน่ารัก ไปให้ได้ก่อน และเขตนี้เป็นเขตแห่งความหวังของภูมิใจไทย ที่จะปักธงให้ได้ โค้งสุดท้ายนี้ ญาติๆของสายวิเชียรรวมพลังกันเต็มที่ ดัน”หมอผึ้ง”เข้าสภาให้ได้ส่วนรวมไทยสร้างชาติ “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” อดีต ส.ส.หลายสมัยของประชาธิปัตย์ คราวนี่ย้ายมาอยู่กับ “ลุงตู่” ก็น่าจะสอบผ่าน เว้นแต่ประชาธิปัตย์ จะสามารถเร่งสปีดในโค้งสุดท้ายนี้ ถึงจะก้าวทัน “ส.ส.ปุ้ย” เอาเป็นว่างานนี้ “หืดขึ้นคอ” และ สายัณห์ ยุติธรรม ก็ไม่หมูกับการสู้กับ “นายกฯหนึ่ง” จากประชาธิปัตย์ แม้จะเปิดตัวหลังสุด แต่ตีกรรเชียงคู่มากับ “สายัณห์” แล้วในเวลานี้ เอาเป็นว่า “ใครใจถึงกว่า” คนนั้นเข้าเส้นชัย แต่อย่าลืมว่า “นายกฯหนึ่ง” ก็มีเงาทะมึนของ “แทน-ชัยชนะ” ยืนดันหลังอยู่ด้วย และบารมีของ “แทน” ก็แผ่มาถึงพระพรหมด้วย
ขณะที่ “พงศ์สิน เสนพงศ์” ของรวมไทยสร้างไทย ก็ต้องฟัดกันแรงกับ “อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” แชมป์เก่าจากพลังประชารัฐ โดยมี “ปลัดณัฐกิตติ์ หนูรอด” จากภูมิใจไทย พร้อมจะเบียดแทรกได้ตลอดเวลาเช่นกัน
กล่าวสำหรับภูมิใจไทยในสถานการณ์นี้ยังถือว่าเป็นคู่แข่งได้อีก 3-4 เขต อยู่ที่พรรคจะตัดสินใจสู้แค่ไหน ถ้าพรรคลุกขึ้นสู้ จัดเต็มคาราเบล มีแม่ทัพที่กล้าหาญ อย่าง “อารี ไกรนรา” เป็นนายกองก็พร้อมกรีฑาทัพเข้าสู่ศึก จึงยังมีโอกาสปักธงภูมิใจไทยได้เช่นกัน อย่างเช่น เขตทุ่งใหญ่ เขตทุ่งสง เขตท่าศาลา เขตปากพนัง เขตชะอวด เป็นต้น
#การเมืองนคร #ชัยชนะ_เดชเดโช #อารี_ไกรนรา #ภูมิใจไทยนครฯ #โค้งสุดท้าย