วิสัยทัศน์คนรุ่นใหม่ ‘ลอรี่’ พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ พัฒนา’สวนหลวง-ประเวศ’แบบยั่งยืน

87

‘ลอรี่’ พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ  ผู้สมัคร สส. สวนหลวง-ประเวศ เบอร์ 12 จากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดวิสัยทัศน์การพัฒนาสวนลวง-ประเวศ แบบยั่งยืน ระบบไฟฟ้า คูคลองต้องตอบโจทย์ ลดอาชญากรรม-สร้างความสวยงาม -เสริมรายได้

‘ลอรี่’ พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เปิดนโยบายพัฒนาเขตสวนหลวง-ประเวศ ว่า จะสร้าง Sustain ablity โดยจะพัฒนาในสวนหลวง –ประเวศ เป็นเขตพัฒนายั่งยืน ให้มันเป็นดินแดนนำร่อง ยกตัวอย่างเช่น ไฟฟ้า ทุกวันนี้เป็นระบบใช้หลอดไฟปกติ ใช้ไฟฟ้าซึ่งมันก็มีปัญหากันเยอะ โดยเฉพาะหลายชุมชนที่ได้ลงพื้นที่ ริมคลองยามดึกดื่น ก็จะมีปัญหา หลอดไฟขาด หลอดไฟดับ และก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งก็ทำให้พื้นที่ริมคลองเป็นพื้นที่ที่มืดสนิท และมีอาชญากรรมเกิดขึ้นมาก สร้างความไม่สบายใจเป็นกังวลของคนในพื้นที่เป็นอย่างมากวิธีแก้ไขก็คือ เราจะเปลี่ยนเป็นระบบโซลาเซลล์ทั้งหมด ทั้งเขต ซึ่วจะผลักดันให้เกิดขึ้นได้แน่นอน แล้วก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า คิดว่า การคืนทุนอยู่ในเพียงแค่ 1 ปีก็น่าจะคืนทุนแล้ว ปัจจุบันมันมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายหลอดไฟ ระหว่างการไฟฟ้านครหลวง กับ กทม. มีการเซ็นต์ MOU กัน หลอดไฟฟ้าขาด ดับไปก็ไม่รู้ว่า จะต้องเป็นหน้าที่ใครที่จะมาเปลี่ยนหลอดไฟ มันก็เลยมีปัญหา แต่ถ้าเราเอาพลังงานทดแทนอย่างพลังงานแสงแดดที่มีอยู่แล้วมาใช้ทั้งสวนหลวง ประเวศ ริมคลองและทุกพื้นที่จะไม่มีวันไฟดับ ไม่มีวันมืด และจะสว่างไสวตลอดเวลาเรื่องที่สอง จะเป็นเรื่องที่ทุกคนเผชิญกันอยู่ตลอดเวลาทุก ๆ เช้า นั่นคือ ปัญหารถติด บางคนบอกมันแก้ยาก จะต้องทำรถไฟฟ้าอย่างเดียว แต่คิดว่าจริง ๆ แล้วมันมีเรื่องของการพัฒนาแผนผัง ผังเมือง โดยเฉพาะในซอย ทุกวันนี้ ถนนหลัก ๆ ในเขตสวนหลวง ถนนอ่อนนุช พระราม 9 พัฒนาการ ศรีนครินทร์ เป็นต้น ซึ่งถนนทั้งสี่สายนี้ ก็จะมีภาระล้น มีคนสัญจรมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะช่วงไพร์ไทม์ เพราะฉะนั้นวิธีแก้ จะแก้ด้วยวิธีการใช้ผังรังผึ้ง ทำให้ซอยตัน อาทิ ถนนพัฒนาการ ซอย 40 กว่า 50 กว่า เป็นซอยตัน แต่จริง ๆ แล้วสามารถเชื่อม และลากมาถึงอ่อนนุชได้ ทุกวันนี้ซอยที่ทะลุอ่อนนุชกับพัฒนาการ มีแค่ซอยอ่อนนุช 17 พัฒนาการ 20 มีอยู่ 2 ซอย และรถก็วิ่งกันจ้าละหวั่น ผมคิดว่า ถ้าเราสามารถพัฒนาแผนผัง ค่อย ๆ นะ ไม่ได้หมายถึงว่า ทำทั้งหมด แต่ค่อย ๆ ตัดให้เป็นรัง คล้าย ๆ วาฟเฟิล ก็จะลดภาระจำนวนรถยนต์ ที่ต้องพึ่งพาถนนใหญ่ตลอดเวลา สามารถสัญจรกันได้ดีขึ้น นี่เป็นสิ่งที่คิดว่า ควรทำ ทำได้และคุ้มค่ากับการที่จะทำให้สวนหลวง-ประเวศพัฒนาได้อย่างยั่งยืนและการจราจรจะเบาตัวลงตรงถนนใหญ่อีกเรื่องหนึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนกระทบกันหมดก็คือ PM 2.5 เรื่องนี้ควรจะเป็นวาระแห่งชาติ ก็เพราะว่า การที่เราสูด Participle เล็ก ๆ เข้าไปทุกๆ วัน จะทำให้อายุขัยของเราลดลง ตามการวิจัยของต่างประเทศ ลดลงประมาณสักครึ่งปีอายุ ถ้าคิดว่าดมไอฝุ่น ที่คิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่มันไม่เล็กอย่างนั้น วิธีแก้ก็คือเราต้องมี พ.ร.บ.ต่อสู้เพื่ออากาศบริสุทธิ์ ซึ่งผลักดันเรื่องนี้ และควรจะต้องตั้งคณะกรรมการผู้มีอำนาจเต็มในการจัดการ ทุกวันนี้คนที่จัดการกับควันพิษ 2.5 ก็คือ กรมควบคุมมลพิษ ซึ่งไม่มีอำนาจใดๆ รถปล่อยควันดำ ปล่องไฟจากโรงงานอุตสาหกรรมปล่อยควัน ไม่มีอำนาจอะไรที่จะไปจับหรือตรวจสอบ หรือควบคุมใดๆ ทั้งสิ้น‘วิธีที่เราควรจะทำก็คือตั้ง คณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยผู้มีอำนาจ อย่างเช่น ปลัดกระทรวงจาก 6 กระทรวง เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงการต่างประเทศ เพราะปัญหา PM 2.5  มันไม่ใช่ปัญหาแค่ในประเทศ แต่มันเป็นปัญหาระดับภูมิภาค ยกตัวอย่างเช่น จังหวัดที่มี PM 2.5 เยอะที่สุดอย่างเชียงใหม่ หรือ ขอนแก่น มันเป็นควันพิษที่มาจากทางเพื่อนบ้านทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นการที่มี กระทรวงการต่างประเทศ เราก็สามารถที่จะเจรจา เช่น เป็นค่าปรับในการที่ควันพิษข้ามประเทศกัน ซึ่งประเทศสิงคโปร์ทำมาแล้ว สิงคโปร์มีค่า PM 2.5 ทะลุเป้าเลย ทั้ง ๆ ที่ประเทศไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้เผาชีวมวล ไม่ได้เผาไร่ เผานา แต่มีควันมาจากอินโดนีเซีย และรัฐบาลได้เจรจาทางการทูตจนสามารถ มีค่าปรับควันพิษที่ข้ามถิ่นระหว่างกันได้ ซึ่งตรงนี้มันสำคัญกับสวนหลวง เพราะคิดว่ามันเป็นภาพรวมที่มากระทบที่สวนหลวง เพราะฉะนั้นประเด็นนี้ก็จะเป็นประเด็นที่ผมจะผลักดันในระดับนิติบัญญัติ เพื่อที่จะได้ช่วยแก้ปัญหาแบบครบวงจร’ ผู้สมัครพรรคร่วมไทยสร้างชาติ กล่าวลอรี่ กล่าวว่า เรื่องที่จะสร้างสวนหลวงอย่างยั่งยืน นอกจากเรื่องเปลี่ยนหลอดไฟก็จะมีเรื่องของการจัดการขยะ รวมไทยสร้างชาติ มีนโยบายเปลี่ยนขยะเป็นเงิน ส่งเสริมให้แยกขยะ อย่างเช่นพลาสติก โลหะ หรือ ขยะอินทรีย์ ขยะชีวมวลต่าง ๆ ขยะชีวมวลอันนี้สำคัญตรงที่ว่า เรามีโรงไฟฟ้า ที่สามารถเอาขยะพวกเศษข้าวเศษอาหาร เอาไปแปลงเป็นไฟฟ้าได้แล้ว ณ วันนี้ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรวมไทยสร้างชาติที่จะเปลี่ยนขยะเป็นเงิน และสร้างรายได้ให้กับชุมชน ประชาชนตัวเล็ก ๆ ขณะเดียวกันเราก็จะได้พลังงานสะอาด มาทดแทนพลังงาน ที่มาจากถ่านหินจากด้วยแล้วก็ยังมีเรื่องของขุดคูคลองทุกสองเดือน ส่วนตัวเห็นว่า คลองในสวนหลวงมีความสวยงาม แต่ดูไม่ดีเท่ากับคลองอื่นๆ  ปกติคลองจะลึก 6-8 เมตร แต่คลองในส่วนกลวง เอาไม้ลงไปจุ่มดูจะพบเลยว่า คลองมันตื้น เพราะมันมีแต่สิ่งปฏิกูลอยู่ด้านล่าง เพราะไม่มีการขุดคลอกคูคลองอย่างสม่ำเสมอ และจากการพูดคุยกันชุมชน เวลาชาวบ้านช่วยกันลอกคลอง ไม่มีรถเข้ามาขนออกไป ขยะเหล่านั้นก็ถูกกองไว้ข้างๆ คลอง เมื่อฝนตกลงมาก็จะไหลลงไปในคลองอีก ทุกอย่างเหมือนไม่ได้มีความเอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหา เพราะฉะนั้นการขุดคูคลองทุกสองเดือน จึงสำคัญอย่างมาก ช่วยลดน้ำขังจากขยะ ซึ่งเป็นต้นเหตุหลักของการเกิดโรค อย่างโรคไข้เลือดออก ทำให้มีคนป่วยมากกว่าปีที่แล้วเป็น 5 เท่า
นอกจากนี้ หารขุดลองคลอง จะช่วยในเรื่องของการระบายน้ำ เวลาที่มี อุทกภัย ตอนนี้ฝนตกแค่ 15 นาที น้ำท่วมแล้ว เป็นเพราะส่วนนึงทางน้ำไหลมันไม่ดี เพราะฉะนั้นคิดว่าการขุดลอกคูคลองมันเป็นเรื่องดีทั้งขึ้นทั้งล่องเรื่องสุดท้ายก็คือเรื่องของ บ่อดักไขมันประจำตลาด คิดว่าทุกตลาด ทุกสตรีทฟู้ด เมืองไทยเป็น เมืองสตรีทฟู้ดอยู่แล้ว มันก็จะมีประเด็นตรง ที่ว่าบางร้านขายอาหารไทย ก็จะมีความมัน ๆ บางร้านทำ ก๋วยเตี๋ยว พอขายหมดแล้วก็คิดว่าแค่เป็นน้ำซุป ก็เทลงไปเลยในท่อได้ แต่ในความเป็นจริง คือน้ำพวกเนี่ย เวลามันลงไปแล้วมันจะกลายเป็นไขมันชั้นแข็งๆ ที่เกาะกัน เป็นตัวสำคัญที่จะปิดกั้นการไหลระบายน้ำเสียด้านล่าง เพราะฉะนั้นเวลาฝนตก ถ้าสังเกต จุดที่เปราะบาง และเป็นจุดที่ท่วมก่อนก็คือ ตรงตลาดนี่แหล่ะที่มี สตรีทฟู้ดอยู่

‘ผมก็เลยคิดว่าจริง ๆ แล้วทำไมเราไม่ Provide ตัวบ่อดักไขมัน แต่ละตลาดที่มีอยู่ และให้ทุกคนแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการแค่มาเทนะครับ กรองตรงนี้แล้วค่อยปล่อยน้ำลงท่อระบายน้ำ แค่นี้ก็จะแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมฉับพลันในสวนหลวง-ประเวศเราได้ครับ’