“ก้าวไกล-พิธา” ติดลมบน “ไทยรัฐโพล” โค้ง สุดท้าย เผยเรตติ้งพรรคสีส้มพุ่งกระฉูด “พิธา” ยืนหนึ่งว่าที่นายกฯ 38 เปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ “อุ๊งอิ๊ง” แผ่วได้ 18 เปอร์เซ็นต์ ลดลงไป 6 เปอร์เซ็นต์ “เศรษฐา” ได้ 10 เปอร์เซ็นต์ หล่นวูบ 7 เปอร์เซ็นต์ ส่วน “ประยุทธ์” รั้งที่ 4 แต้ม ขยับขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์ ส.ส.เขตผันผวน ก.ก.ยึด 36 เปอร์เซ็นต์ พท.เคยสูงสุด 42 เปอร์เซ็นต์ วูบเหลือ 29 เปอร์เซ็นต์
โค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.66 กระแสความนิยมของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่สะท้อนผ่านโพลหลายสำนักพุ่งทะยานขึ้น จนแซงหน้าพรรคเพื่อไทย ล่าสุด “ไทยรัฐโพล” เผยผลสำรวจความคิดเห็นครั้งที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.-1 พ.ค.66 ปรากฏว่าคะแนนพรรค ก.ก.ทั้ง ส.ส.เขตและ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ แซงขึ้นนำพรรค พท. โดยเฉพาะพรรค พท.ที่ชูแคมเปญแลนด์สไลด์ จากที่ได้คะแนนสูงสุดที่ 42% กลับลดเหลือ 29%
เมื่อวันที่ 5 พ.ค.66“ไทยรัฐโพล” ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นครั้งที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.-1 พ.ค. 66 มีผู้ตอบแบบสอบถาม ที่สามารถนำมาใช้ประมวลผลได้ทั้งสิ้น 13,546 ครั้ง สำหรับรายชื่อความนิยมในตัวแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1 คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้คะแนน 38% เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อน 3% ตามมาด้วย “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ 18% ลดลงจากครั้งก่อน 6% นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. 17% ลดลง 7% พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) 15% เพิ่มขึ้น 1% และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ 1% เท่าเดิม
สำหรับการเลือก ส.ส.เขต ปรากฏว่า ผลสำรวจครั้งนี้คะแนนผันผวนไปจากครั้งก่อน โดยพรรค พท.ที่ชูแคมเปญแลนด์สไลด์ จากที่ได้คะแนนสูงสุดที่ 42% กลับลดเหลือ 29% ทำให้พรรค ก.ก.ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 ได้ 36% เพิ่มจากครั้งก่อน 1% พรรค รทสช. มาเป็นอันดับ 3 ได้ 12% คงที่ แต่ พรรคที่ได้คะแนนเพิ่มมาในรอบโค้งสุดท้าย คือ พรรค ทสท.ได้ 6% บวกเพิ่ม 3% กับพรรค ภท. 5% บวก 2% พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 3% บวก 1% พรรค พปชร.ได้ 2% เท่าเดิม พรรคประชาชาติ (ปช.) 1% เท่าเดิม ส่วนพรรคอื่นๆ 6% เพิ่มขึ้น 3% ส่วนการเลือก ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ พรรค ก.ก.ทำคะแนนเพิ่มจนเป็นพรรคอันดับ 1 ที่ 39% บวก 3% พรรค พท.ลดลงจากครั้งก่อนที่ 40% เหลือ 28% พรรค รทสช. 13% คงเดิม พรรค ทสท. 6% เพิ่มขึ้นถึง 5 % พรรค ภท. 4% บวก 2% พรรค ปชป. 2% เท่าเดิม พรรคพปชร.กับพรรค ปช. 1% เหมือนกันเท่าเดิม และเลือกพรรคอื่นๆ 6% เพิ่มขึ้นจากเดิม 2%
โดยก่อนหน้านั้น ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 3” เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีคะแนนนำ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งสะท้อนถึงกระแสความนิยม “พิธาฟีเวอร์” สำหรับคะแนนความนิยมของว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคต่าง ๆ ตามผลการสำรวจของนิด้าที่เผยแพร่ในวันนี้ (3 พ.ค. ) ใน 5 ลำดับแรก มีดังนี้
อันดับ 1 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล 35.44%
อันดับ 2 น.ส. แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย 29.20%
อันดับ 3 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ 14.84%
อันดับ 4 นายเศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทย 6.76%
อันดับ 5 ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ 3.00%
เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนับตั้งแต่การสำรวจตั้งแต่ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 19 มี.ค. และครั้งที่ 2 ในวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา พบว่า พิธา มีกระแสความนิยมในฐานะว่าที่นายกฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 15.75% ในครั้งแรก เพิ่มเป็น 20.25% ในครั้งที่สอง และเฉือนชนะ น.ส.แพทองธารได้ในครั้งที่ 3 ที่ 35.44% ขณะที่คะแนนความนิยมของ น.ส.แพทองธาร ลดลงอย่างต่อเนื่องจากการสำรวจครั้งแรกอยู่ที่ 38.20% มาเป็น 35.70% ในครั้งที่สองและ 29.20% ในครั้งล่าสุด
ด้าน รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผอ. หลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา นิด้า ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายงาน “เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์” ทางสถานีโทรทัศน์ MCOT HD อธิบายถึงผลการสำรวจและภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นดังกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเรียกได้ว่า “พิธา ฟีเวอร์” หรือความนิยมในตัวนายพิธาของผู้มีสิทธิเลือกตั้งกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
เขามองว่า กระแสดังกล่าวอาจจะมากกว่าในการเลือกตั้งปี 2562 ที่เคยเกิดกระแส “ธนาธร ฟีเวอร์” ต่อตัว นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ปัจจุบัน ผันตัวมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกลโดย กระแสดังกล่าวน่าจะมาจากการสื่อสารเกี่ยวกับนโยบายที่ตรงจุด ความชัดเจนด้านจุดยืนทางการเมืองผ่านการดีเบตตามเวทีต่าง ๆ ซึ่งตัวแทนพรรคก้าวไกลสื่อสารด้วยข้อความเดียวกัน.
