“วิษณุ เครืองาม” การจัดงบปี 67 จะเหลือให้รํัฐบาลชุดใหม่ใช้แค่ 2 แสนล้านบาท เว้นแต่เก็บภาษีได้อย่างอัศจรรย์ หรือได้มาโดยวิธีอื่น ปัดตอบงบฯแจกเงินดิจิตัล 1หมื่นบาทของเพื่อไทยทำได้หรือไม่
วันที่ 11 เม.ย.66 เวลา 12.18 น.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงนโยบายของพรรคการเมืองจะต้องชี้แจงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทุกนโยบายหรือไม่ว่า ไม่ต้องทุกนโยบาย เพราะบางอย่างเขาพูดไปเองก่อนได้ บางอย่างที่มีข้อสงสัยเข้าข่ายทางกกต.ก็ถามกลับมา เพราะต้องบอกกกต.ถึงแหล่งเงินที่จะใช้และยอดเงินรวมทั้งหมดที่จะใช้
ต่อข้อถามถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทของพรรคเพื่อไทย (พท.) จะเป็นภาระงบประมาณหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า เรายังชี้อะไรไม่ได้ เจ้าของนโยบายต้องชี้แจงกับกกต.
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ถ้าเจ้าของนโยบายชี้แจงกับนโยบายแล้ว จะต้องออกเป็นกฎหมายใหม่ หรือ สามารถเกลี่ยงบประมาณเดิมที่มีอยู่ นายวิษณุกล่าวว่าตนไม่รู้ว่าเขาคิด เขาทำอย่างไร ไม่รู้ว่าเขาเอาเงินจากไหน ซึ่งที่ประชุมครม.วันนี้มีการชี้แจงโดยคณะกรรมการเศรษฐกิจการคลัง ว่างบประมาณปี 67 กำลังออกนั้น หลังจากหักงบประจำ งบเงินเดือน งบผูกพันและงบใช้จ่ายหนี้เงินกู้ ยังเหลือวงเงินที่มาบริหารจัดการโครงการใดก็ได้ประมาณ 2 แสนล้านบาท เว้นแต่ว่าถ้าเก็บภาษีได้เพิ่มโดยอัศจรรย์ หรือได้มาโดยวิธีอื่น ยอดเงินทั้งหมดของงบประมาณที่เตรียมไว้ที่ทำเสร็จแล้ว รัฐบาลใหม่ต้องเข้ามาปรับปรุงแน่และจะจัดการอย่างไร ก็จะจัดการกับเงิน 2 แสนล้านบาทนี้
เมื่อถามว่าแปลว่าถ้าเขาจะทำนโยบายโดยใช้เงิน 5 แสนล้านบาท จะต้องกู้มาใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าก็แล้วแต่ ตนพูดไม่ถูก เพราะไม่รู้ และเมื่อถาม หากต้องกู้ก็ต้องนำเข้าสภาฯพิจารณา และหากไม่เห็นด้วยต้องศาลรัฐธรรมนูญตีความใช่หรือไม่ นายวิษณุ ได้พยักหน้าและกล่าวว่า ไม่เหมือนกับช่วงโควิด-19 ที่ออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)
เมื่อถามที่ประชุมครม.มีตั้งข้อสังเกตอะไรหรือไม่ ที่ตัวแทนจากคณะกรรมการเศรษฐกิจการคลัง นายวิษณุกล่าวว่าไม่มีใครตั้งข้อสังเกต มีแต่ฟังคำอธิบาย และ เมื่อถามย้ำว่า ส่วนตัวที่มีประสบประสบการณ์มองเรื่องนี้อย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่าไม่มีประสบการณ์ และขอให้ถามโฆษกรัฐบาลเพราะเขาจะชี้แจงแล้ว