คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. เตรียมยื่นหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธาน กพช. 7 เม.ย.นี้ ขอทบทวนค่าไฟงวดพ.ค.-ส.ค.66 ให้มีถูกกว่า 4.77 บาท/หน่วย เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้เอกชน
วันที่ 5 เม.ย.2566 นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประจำเดือนเม.ย.66 ว่า กกร.ยังคงตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจ(GDP)ปี 2566 เติบโต 3-3.5% ส่งออก เติบโต-1% ถึง 0% เงินเฟ้อ 2.7% ถึง 3.2% เนื่องจากประเมินว่า เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลบวกจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว แต่ส่งออกยังอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยเฉพาะจากคู่ค้าหลัก อย่างไรก็ตามสิ่งที่กังวลคือระดับราคาน้ำมัน ที่อาจปรับตัวสูงขึ้นหลัง “โอเปคพลัส” ลดกำลังผลิต และ ค่าไฟงวดพ.ค.-ส.ค.66 ที่เฉลี่ย 4.77บาทต่อหน่วยที่รัฐควรทบทวน
ดังนั้น กกร.จึงเตรียมทำหนังสือยื่นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)วันที่ 7 เม.ย.นี้ เพื่อขอทบทวนเพื่อลดภาระภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ โดยต้นทุนพลังงานโดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่สูงกว่าเพื่อนบ้าน ทำให้ขีดแข่งขันประเทศลดลง ยิ่งช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวยิ่งสำคัญ เพราะส่งออกเองต้องแข่งขันสูง นอกจากนี้ ภาครัฐควรมองหาตลาดใหม่แล้วก็ควรมองเรื่องราคาพลังงานด้วย ส่วนกรณีตอนนี้รัฐบาลยุบสภาฯมองว่าไม่เกี่ยวว่าจะแก้ไขไม่ได้เพราะเป็นเรื่องที่ควรทำต่อเนื่อง
ทั้งนี้มองว่ารัฐควรทบทวนเพราะมองว่าก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยที่มีราคาต่ำจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น ราคาก๊าซธรรมชาติเหลวหรือ LNG ควรอ้างอิงแผนนำเข้าช่วงเดือนพ.ค.-ส.ค.แทนเดือน ม.ค.และ แผนการชำระหนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จากเดิมที่มีแผนคืนให้ในระยะเวลา 3 ปี (ตามงวด 1/2566) และ เปลี่ยนเป็น 2 ปี (ตามงวด 2/2566) อาจเร็วไป กกร.จึงเสนอให้คงระยะเวลาการคืนหนี้ให้ กฟผ. เป็นระยะ 3 ปี ตามงวด 1/2566 นอกจากนี้ ขอให้ภาครัฐเร่งจัดตั้ง กรอ.พลังงาน เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมให้ความเห็นในการกำหนดนโยบายด้านพลังงาน รวมถึงมาตรการช่วยเหลือด้านพลังงานต่างๆ เพื่อให้สามารถบรรเทาผลกระทบต่อทุกภาคส่วน