“อลงกรณ์” โกอินเตอร์! กล่าวสุนทรพจน์ พัฒนาภาคเกษตร บนเวที “สหประชาชาติ”

“อลงกรณ์ พลบุตร” กล่าวสุนทรพจน์เวที “สหประชาชาติ” ชูแนวทางการพัฒนาภาคเกษตร 3 สูง 3 มิติ หวังขับเคลื่อนระบบอาหาร(Food System)ให้เกิดความมั่นคงอย่างยั่งยืน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจาก ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้แทนร่วมกล่าวเปิดงานร่วมกับ นายจองจินคิม ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) นายคาเวห์ ซาฮีดี รองผู้อำนวยการองค์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ(ESCAP)และ นายสเตฟาโน โฟเธาว์ผู้ประสานงานระบบอาหารโลกของสหประชาชาติ(UN)โดยนายอลงกรณ์กล่าวสุนทรพจน์ภายใต้หัวข้อ การปฏิรูประบบอาหารในเอเชียและแปซิฟิก : การประเมินความคืบหน้าระบบอาหารระดับภูมิภาคเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ( The Regional Food Systems Stocktaking ) ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ( the United Nations Conference Centre )กรุงเทพฯ ว่า ในนามของรัฐบาลไทยขอขอบคุณพันธมิตรนานาประเทศ ที่ร่วมกันแลกเปลี่ยนและนำเสนอแนวทางในการพลิกโฉมระบบอาหารและการเกษตร การจัดทำรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานภายหลังการประชุมสุดยอดผู้นำระบบอาหารโลก เพื่อให้โลกของเราสามารถผ่านพ้นวิกฤติและสร้างความเข้มแข็งมั่นคงและยั่งยืนให้ภาคเกษตรและอาหาร และเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายในปี 2030กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลักในการร่วมกิจกรรมของการประชุมสุดยอดผู้นำระบบอาหารโลกมาตลอด และกำลังจัดทำรายงานความก้าวหน้า( Food and Agriculture Stocktaking )เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมFood and Agriculture Stocktaking Moment ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ และจัดเตรียมสำหรับการปะชุม สุดยอดการพัฒนาอย่างยั่งยืน(SDG Summit)ในเดือนกันยายนอย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ได้เชิญชวนภาคีเครือข่าย พันธมิตรนานาชาติ ที่ได้ร่วมดำเนินโครงการด้านเกษตรและอาหารในประเทศไทยจัดส่งข้อมูลเพื่อรวบรวมในการจัดทำ Food and Agriculture Stocktaking ของประเทศไทย และได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อพลิกโฉมระบบเกษตรและอาหารให้ยั่งยืน ยืดหยุ่น และเป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผ่านการสนับสนุนทางด้านการเงิน ข้อมูล วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งประเทศไทยได้นำนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว หรือ “โมเดลเศรษฐกิจ BCG” เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่สร้างสมดุลสู่ความยั่งยืน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้นำมาปรับใช้เพื่อขับเคลื่อนระบบเกษตรและอาหารให้เกิดความยั่งยืนต่อไปทั้งนี้ “โมเดลเศรษฐกิจ BCG” เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่มุ่งสู่ความยั่งยืนทั้ง 3 มิติ คือ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนประเทศไทยอย่างสมดุลและยั่งยืน มีการบูรณาการและการพัฒนาตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยใช้องค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมสร้างคุณค่าเพิ่ม จากฐานความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม

“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มุ่งพัฒนาภาคการเกษตรสู่ 3 สูง คือ ประสิทธิภาพสูง มาตรฐานสูง และรายได้สูง โดยการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่นำร่อง 5 จังหวัด เพื่อพัฒนาให้เป็นต้นแบบขยายผลไปยังจังหวัดอื่น ๆ โดยนำแนวคิด “โมเดลเศรษฐกิจ BCG” ในการขับเคลื่อนทุกโครงการที่ดำเนินงานอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพ ยั่งยืน ยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรไทย และขอเน้นย้ำว่า เส้นทางสู่ระบบอาหารและการเกษตรที่ยั่งยืน ต้องเกิดจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมสร้าง ในทุกระดับ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมและยินดีแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการที่ไทยมีศักยภาพให้แก่ประเทศสมาชิกในภูมิภาค และหวังว่าการสัมมนาในครั้งนี้ จะสามารถเป็นเวทีให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น เพื่อระบบเกษตรและอาหารที่ยั่งยืนต่อไป และเราทุกคนจะไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” นายอลงกรณ์ กล่าว.