สธ. ตั้งศูนย์ EOC เฝ้าระวัง “ซีเซียม-137” ตรวจสุขภาพ 70 คนโรงงานหลอมเหล็ก

ปลัด สธ.ตั้งศูนย์ปฏิบัติการ EOC จังหวัดปราจีนบุรี รับมือ ‘ซีเซียม-137’ ตรวจสุขภาพ 70 คนงานโรงหลอมเหล็ก แนะประชาชนละแวกข้างเคียงโรงหลอม ถ้าพบอาการผิดปกติ ทางผิวหนัง ดวงตา ให้รีบพบแพทย์ทันที

วันที่ 20 มีนาคม 66 หลังมีการแถลงยืนยันพบ วัตถุกัมมันตภาพรังสี ซีเซียม 137 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงษ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ทางสาธารณสุขจังหวัด ได้จัดตั้ง ‘ศูนย์ปฏิบัติการ EOC จังหวัดปราจีนบุรี’ เพื่อติดตามประเด็นสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง สำหรับ สารกัมมันตภาพรังสีเป็นสารพิษ มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ตรวจวัดได้จากเครื่องมือ

ทั้งนี้ การจะเกิดผลกระทบต่อสุขภาพต้องดูปัจจัยอื่นๆประกอบ เช่น ปริมาณความเข็มข้นของสาร , ระยะเวลาการสัมผัส ซึ่งผลที่เกิดต่อสุขภาพ มีทั้งระยะเฉียบพลัน ระยะกลาง และระยะยาว โดยระยะเฉียบพลัน หากสัมผัส จะเกิดผิวหนังพุพอง มีตุ่ม / เนื้อตาย/ท้องเสีย /คลื่นไส้ อาเจียน ส่วนระยะกลาง และระยะยาว สารกัมมันตภาพรังสีมีผลต่อเม็ดเลือดขาว

ปลัดสธ.กล่าวว่า ขณะนี้มีการติดตามเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพในกลุ่มเสี่ยงสูง คือพนักงานในโรงงานหลอม เหล็กประมาณ 70 คน ซึ่งจะมีการตรวจสุขภาพทันที พร้อมตรวจปัสสาวะหาสารซีเซียมในร่างก่าย โดยห้องปฏิบัติการพิเศษ กลุ่มต่อมาคือ ประชาชนที่อาศัยอยู่ละแวกข้างเคียง หากพบมีอาการผิดปกติ เกิดอาการ ทางผิวหนัง ดวงตา ให้รีบมาพบแพทย์ทันที ส่วนจะขยายขอบเขตกลุ่มเฝ้าระวังหรือไม่ ต้องรอการประเมินสถานการณ์การแพร่ของสารกัมมันตภาพรังสีจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ก่อน

นายแพทย์โอภาส ย้ำเตือนประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง คือพนักงานโรงงานหลอมเหล็กและประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงโรงงาน ถือว่าทุกคน มีความเสี่ยงที่อาจจะได้รับผลกระทบ ขอให้สังเกตุอาการตนเอง แม้จะเป็น เป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง แต่ก็สามารถได้รับผลกระทบจากสารกัมมันตภาพรังสีได้ ไม่ต่างจากผู้ที่ โรคประจำตัวหรือกลุ่มเด็กเล็ก

“ถ้า Cesium-137 ถูกหลอมเผาไหม้และกลายเป็นไอ สามารถออกไปได้เป็นหลักร้อยถึงพันกิโลเมตรขึ้นกับลมโดย เหตุการณ์ที่ Chernobyl พบว่า Cesium-137 ปลิวไปถึงสวีเดน 1,000 กิโลเมตร และทำร้ายสิ่งมีชีวิตได้ทั้งการสัมผัสโดยตรง การกิน และการหายใจ”

“Cesium-137 จะสะสมในดิน น้ำ อาหาร ทำให้เกิดผลเสียต่อสัตว์และมนุษย์ ปลา นก ไก่ หมู หมา แมว วัว ฯลฯ อนุภาคบีต้าและรังสีแกมมา จะทำลาย DNA, ทำให้เกิด mutation ถ้าไม่ตายก็เกิดมะเร็งต่อ โดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือดขาวและไธรอยด์”

“Cesium 137 มีค่าครึ่งชีวิต 30 ปี ดังนั้นจะใช้เวลาในธรรมาชาติไม่ต่ำกว่า 100 ปีจึงจะสลายหมด คนที่จะได้รับผลกระทบน่าจะหลายแสนและเป็น 100 ปี จะมีคนเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวและไธรอยด์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในพื้นที่เสี่ยงคนที่คิดว่าเสี่ยงต่อการสัมผัส Cesium-137 ควรเฝ้าระวังเร่งด่วน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ผิวหนังไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ”

“ดังนั้น รัฐควรเก็บบันทึกข้อมูลอย่างโปร่งใส มีโอกาสที่คนจะสัมผัสปริมาณมาก ยิ่งคนที่อยู่ใกล้ในระยะ 5-10 เมตร น่าจะอันตรายมาก ไม่รู้ว่าระยะจริงที่ปลอดภัยเท่าไหร่ เพราะขึ้นกับความเข้มข้นที่เหลืออยู่และ shield ที่ป้องกันรอการประกาศเร่งด่วนอย่างเป็นทางการและโปร่งใสจากหน่วยงานของรัฐอีกทีพรุ่งนี้นะครับ” นพ.โอภาส กล่าว