“นิพนธ์” เดินหน้าลุย “โคบาลชายแดนใต้” มอบเงินเกษตรกรแล้ว 20 ล้านบาท

รมว.เกษตรและสหกรณ์ มอบหมาย “นิพนธ์ บุญญามณี” เดินหน้าโครงการ “โคบาลชายแดนใต้”สู่ยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางด้านอาหาร โดยมอบเงินงวดแรกไปแล้ว 20 ล้านบาท หลังครม.อนุมัติให้ทั้งโครงการ 1566.20 ล้านบาท

วันที่ 17 มี.ค. 2566 นายนิพนธ์ บุญญามณี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมโครงการ การสร้างการรับรู้โคบาลชายแดนใต้ ณ ห้องประขุมโรงแรม ซีเอส ปัตตานี จังหวัดปัตตานี โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ปศุสัตว์เขต 9 ปศุสัตว์จังหวัดปัตตานี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ เกษตรกรในจังหวัดปัตตานีร่วมในการประชุมนายนิพนธ์ กล่าวชื่นชมกับเกษตรกรที่ให้ความสนใจในโครงการโคบาลชายแดนใต้ ที่ จัดขึ้นเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแนวคิด หลักเกณฑ์ และวิธีดำเนินงานโครงการให้ แก่เกษตรกร ให้เกษตรกรมีความพร้อมก่อนเข้าร่วมโครงการ และให้การขับเคลื่อนโครงการโคบาลชายแดนใต้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และคาดหวังว่า หลังจากผ่านการรับฟังโครงการสร้างการรับรู้โคบาลชายแดนใต้ ในครั้งนี้ ผู้เข้ารับฟังจะมีความเข้าใจ และนำความรู้ หรือแนวคิดดีๆ ที่ได้จากการฝึกอบรมไปใช้ให้เกิดรายได้ต่อตนเองและครอบครัว และเกิดประโยชน์ต่อสังคมในพื้นที่ทั้งนี้การดำเนินโครงการดังกล่าวได้มีความคืบหน้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีกลุ่มเลี้ยงโคเนื้อลังกาสุกะ ได้ร้องขอไปยังกระทรวงเกษตรฯ ให้มีการช่วยเหลือในเรื่องเงินทุนเพื่อนำไปต่อยอดการพัฒนากลุ่มฯ ทั้งในเรื่องการขยายผล และ การยกระดับคุณภาพการผลิตให้ได้มาตรฐานตลาดสากล ซึ่งนายนิพนธ์ บุญญามณี ได้มาร่วมประชุมหาแนวทางช่วยเหลือ และอนุมัติเงินทุนจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรให้แก่เกษตรกร 14 กลุ่ม วงเงิน 54 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีการโอนเงินงวดแรกให้แก่เกษตรกรแล้ว 20 ล้านบาทต่อมาเมื่อวันที่ 28 ก.พ.2566 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้อนุมัติจัดสรรเงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรให้ กรมปศุสัตว์ยืมเพื่อใช้ดำเนินโครงการโคบาลชายแดนใต้ วงเงิน 1,566.20 ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยกำหนดชำระคืนภายใน 7 ปี ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 มี ระยะเวลาโครงการ พ.ศ.2565 – 2572 เพื่อขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว นำไปสู่การพัฒนาอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และสตูล ส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพ“การดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางด้านอาหาร ซึ่งการพัฒนาให้พี่น้องเกษตรกร และประชาชนในพื้นที่มีรายได้ที่มั่นคง มีความถนัดด้านอาชีพตามวิถีชีวิต อย่างการเลี้ยงโค จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ก่อให้เกิดความสันติภาพ นำไปสู่สันติสุขในพื้นที่ได้ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการต่อยอดไปยังการส่งเสริมการเลี้ยงแพะ การเลี้ยงไก่เนื้อต่อไป โดยการดำเนินการในเรื่องนี้ต้องครอบคลุมครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการ ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง เพื่อแก้ปัญหาความยากจน และสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่เกษตรกร” นายนิพนธ์ กล่าว.