รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำนโยบาย “สันติภาพสู่สันติสุข” ต้องเปิดช่องพูดคุย ต่อยอดด้วยสร้างงาน สร้างรายได้ แก้จน แนวทางแก้ปัญหายั่งยืน เผยที่ผ่านมา รัฐบาลทุ่มงบไปเกือบ5แสนล้านบาท แต่ไฟใต้ยังไม่สงบ
นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง กล่าวถึงนโยบายสร้างสันติภาพสู่สันติสุข เพื่อแก้ปัญหาชายแดนใต้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายชัดเจนที่สุด เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี ในการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศชัดเจนว่าประชาธิปัตย์จะสร้างสันติภาพสู่สันติสุข
“สันติภาพคือชัดเจนว่าจะต้องพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เห็นต่างกับรัฐ เพราะความเห็นต่างเป็นที่มาของการใช้อาวุธปะทะกันอยู่ ฝ่ายอำนาจรัฐก็จะต้องกำจัดฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายตรงข้ามก็คิดว่ารัฐเป็นศัตรู การสู้รบก็ไม่อาจจะยุติลงได้ ยังมีการจับอาวุธมาประหัตประหารเข่นฆ่ากันอยู่ในเวลานี้” นายนิพนธ์ กล่าว และย้ำว่า
จะมีวิถีทางใดก็แล้วแต่ที่จะทำให้การสู้รบ การสู้รบยุติลงก็ต้องทำ การพูดคุยกับฝ่ายที่เห็นต่างเป็นเรื่องที่หลักเลี่ยงไม่ได้ ต้องพบปะพูดคุยกัน “ประชาธิปัตย์ส่งสัญญาณชัดเจนแล้ว เรากล้าประกาศที่จะนำสันติสุขมาสู่จังหวัดชายแดนใต้ให้ได้ เราใช้งบประมาณไปเยอะแล้ว มากพอแล้ว แต่ปัญหาก็ยังไม่ลุล่วง”
โดยนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปล้นปืนค่ายปิเหล็ง (ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์) จ.นราธิวาส 19 ปีผ่านมาแล้ว เราใช้งบประมาณไปแล้ว 4.9 แสนล้าน แต่เหตุการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น “การทำให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดสันติภาพ จะนำมาซึ่งสันติสุข ต่อจากนั้นประชาธิปัตย์ประกาศชัดแล้วว่า จะทำให้จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความมั่นคงทางด้านอาหาร เพื่อนส่งออกอาหารไปเลี้ยงเพื่อนบ้าน มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ผู้ประกอบการร้านต้มยำกุ้ง ยังมีความต้องการวัตถุดิบ ยังมีช่องทางอีกมากที่จะสร้างรายได้ให้เกษตรกร”
ดังนั้น การเพาะเลี้ยงประมงชายฝั่ง การทำปศุสัตว์ การเลี้ยงโคเนื้อลังกาสุกะ เลี้ยงแพะ เลี้ยงไก่เนื้อ ไก่ไข่ สิ่งเหล่านี้ยังมีช่องทางอีกเยอะมาก “พืชสวนอย่างทุเรียนในจังหวัดยะลา ซึ่งมีอยู่มากในพื้นที่จะทำให้ยะลาเป็นฮับทุเรียน สิ่งเหล่านี้จะเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่” นายนิพนธ์ กล่าวและว่า ปัญหาเชิงโครงสร้างเวลานี้คือปัญหาความยากจน ถ้าเราแก้เรื่องอาชีพ เรื่องรายได้ ก็จะแก้ปัญหาความยากจนได้ เราก็จะพาจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปสู่สันติสุขได้อย่างแท้จริง