“อลงกรณ์ ”ผิดหวัง”ดร.ไตรรงค์” ใส่ร้ายกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันเป็นรองหัวหน้าพรรค 4 สมัย ไม่เคยพบการซื้อเสียงในการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค เผยเป็นคนปกป้อง ครั้งปราศรัยผิดพลาดบนเวที รทสช. แต่ตอนนี้รู้สึกผิดหวังจริงๆ
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกล่าวหาพาดพิง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่ามีการซื้อเสียงในการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคนั้น ตนในฐานะที่เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคหลายสมัยและเป็นรองหัวหน้าพรรค 4 สมัยจนถึงทุกวันนี้โดยได้รับการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคทุกครั้งยืนยันว่า ตนไม่เคยซื้อเสียงในการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคและไม่เคยพบเห็นว่ามีการซื้อเสียงในการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคแต่อย่างใด จะมีก็แต่การหาเสียงตามวิถีทางประชาธิปไตยของผู้สมัคร ในตำแหน่งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคในแต่ละยุคแต่ละสมัย
ส่วนที่ดร.ไตรรงค์ระบุว่า อุดมการณ์ของพรรคอ่อนแอลงนั้น เป็นมุมมองส่วนตัวซึ่งตนก็ต้องขอปฏิเสธเพราะพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ก่อตั้งพรรคมาจนถึงวันนี้ ยังยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พรรคประชาธิปัตย์ยังดำรงความเป็นสถาบันทางการเมืองที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองประเภทที่ตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจเฉพาะกาลเพื่อคนใดคนหนึ่งเพียงชั่วครั้งชั่วคราวจึงอยู่มาได้กว่า76ปี
“ดร.ไตรรงค์คงจะตอบได้ดีว่าวันนี้ท่านยืนอยู่กับพรรคการเมืองประเภทไหนมีอุดมการณ์ประชาธิปไตยอ่อนหรือแก่เมื่อเทียบกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ท่านเคยเป็นสมาชิกมาอย่างยาวนาน” นายอลงกรณ์ กล่าว และส่วนกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์หรือพูดปราศรัยเกี่ยวกับพรรคที่ตกปลาในบ่อเพื่อนก็มีมารยาทที่ไม่เคยเอ่ยถึงชื่อของพรรคการเมืองใดหรือบุคคลใดเป็นการเฉพาะเจาะจง เพราะสังคมทราบถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคอื่นๆที่ตกเป็นเหยื่อของพรรคเหล่านั้นเป็นอย่างดี มีส.ส.และ อดีตส.ส.ของพรรคที่ถูกติดต่อทาบทามเสนอเงื่อนไขแลกเปลี่ยนในการย้ายพรรคบางคนก็ตกลงย้ายไปพรรคอื่น บางคนที่ยังมีอุดมการณ์เหนียวแน่นกับพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังอยู่กับพรรค ตนทราบจากการบอกเล่าว่ามีการเสนอเงื่อนไขแลกกับการย้ายพรรค ส่วนเงื่อนไขจะเกี่ยวกับเงิน หรือ ตำแหน่งหรือไม่นั้น คนที่เกี่ยวข้องย่อมทราบดีกว่าทุกคน
อย่างไรก็ตามมีบางคนบางท่านที่ย้ายออกไปโดยไม่เกี่ยวกับเรื่องเงื่อนไขแลกเปลี่ยนก็มีเช่นกัน จะเหมารวมทั้งหมดไม่ได้ สำหรับคำว่าตกปลาในบ่อตัวเอง น่าจะเป็นการอุปมาอุปไมยที่ใช้ไม่ได้ ไม่มีพรรคการเมืองใดต้องตกปลาในบ่อตัวเอง การปกป้องสมาชิกพรรตไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการตกปลาในบ่อเพื่อนเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของทุกพรรคที่ต้องดูแลคนในพรรคของตน เหมือนแม่ไก่ที่เห็นเหยี่ยวบินโฉบมาก็ต้องกางปีกคุ้มครองลูกของตน
“ผมเป็นคนที่ออกมาปกป้องดร.ไตรรงค์เมื่อกล่าวปราศรัยผิดพลาดบนเวทีหาเสียงที่โคราชด้วยความรักความผูกพันที่มีมาอย่างยาวนานทั้งในทางส่วนตัวและในฐานะเป็นผู้อาวุโสของพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำงานกับพรรคมาเกือบตลอดชีวิตทางการเมืองและยิ่งคิดไม่ถึงว่า ท่านจะกล่าวหาใส่ร้ายทำลายชื่อเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ได้ถึงปานนี้ ท่านเปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ ผิดหวังมากๆครับ.”นายอลงกรณ์ กล่าวในที่สุด.