หน.พรรคภูมิใจไทย เมินวิจารณ์พรรคอื่นปราศรัย ปัดประกาศนโยบาย “บลัฟกลับ” ไม่หวั่น ส.ว. ยกมือหนุนนายกฯ ชี้ เสียงประชาชนสำคัญกว่า ลั่นหากไม่เป็นนายกฯ เท่ากับหักหลัง ปชช.
วันที่ 27 ก.พ. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีการปราศรัยของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่นำโดย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ยังไม่ได้ฟัง และไม่ได้ดูว่ากระแสเป็นอย่างไร เพราะ สนใจแต่การปราศรัยของ ภท. ตั้งแต่ อ.สะบ้าบ้อย อ.นาทวี อ.หาดใหญ่จ.สงขลา จนถึง จ.นครศรีธรรมราช ต้องเดินทางต่อเนื่อง ไม่มีเวลาไปนั่งดูคนอื่น พรรคใคร พรรคมัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรค ภท. มีนโยบายอะไรที่จะ “บลัฟกลับ” พรรคอื่นได้บ้าง นายอนุทิน หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ไม่มี ส่วนกรณีพรรค รทสช. เกทับกลับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เรื่องเพิ่มเงินสวัสดิการแห่งรัฐนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่ยุ่งเรื่องของคนอื่น และ มั่นใจว่านโยบายพรรค ภท. ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน และเป็นสิ่งที่ทำได้รวดเร็วทันใจ จึงมั่นใจในประเด็นของเรา อย่าไปบลัฟกัน เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้ง ทั้งที่บอกว่าจะเร่งสร้างความสามัคคีของคนในชาติ แต่พอขึ้นเวทีก็ใส่กันไม่ยั้ง ว่าคนนี้เลว คนนี้ชั่ว คนนี้ไม่ดีอย่างไร ถามว่าจะไปสามัคคีอย่างไร ซึ่งพรรค ภท. ไม่เลือกวิถีทางนี้ เพราะย้อนแย้งกับเจตนารมณ์ที่ทุกพรรคระบุว่าจะธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ สร้างความสามัคคีปรองดอง ให้เป็นปึกแผ่นของคนในชาติ ให้เกิดความมั่นคงในประเทศ
เมื่อถามว่า หากผลการเลือกตั้งออกมา พรรคภท. ได้คะแนนมากกว่าพรรค รทสช. ยืนยันว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีเอง นายอนุทิน กล่าวว่า ยืนยัน จะไม่ยืนยันได้อย่างไร พรรคภท. ประกาศชื่อแคนดิเดตนายกฯ เป็นคนแรก เสนอเพียงคนเดียว และประกาศมาเกือบ 2 เดือนแล้ว ถ้าไม่พร้อมเป็นเท่ากับโกหกประชาชน จะประกาศเล่นๆ ไม่ได้ ต้องทำให้ประชาชนเห็นว่า ถ้าพรรคประกาศนโยบายแบบนี้ และมีแคนดิเดตนายกฯ เป็นคนนี้ จะนำนโยบายไปทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้อย่างไร จึงเลือกบุคคลนี้มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ
“ถ้าพรรคภท. ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากที่สุด แล้วจะไม่เป็นนายกฯ เท่ากับหักหลังประชาชน ซึ่งเป็นไปไม่ได้” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุ และ เมื่อถามย้ำว่า หากได้เสียงประชาชนมาจำนวนมาก แต่ไปติดที่เสียง ส.ว. สนับสนุนนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ว่ากันไป แต่เราต้องยึดถือเสียงประชาชนเป็นหลักเป็นกำแพง และเป็นสิ่งที่พรรคการเมืองต้องยึดถือไว้ และมั่นใจว่าเสียงประชาชนสำคัญกว่า ใหญ่กว่า มีความหมายมากกว่า
สำหรับการปราศรัยของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีการพาดพิงสถาบัน หรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยจุดยืนเรื่องการหาเสียงของพรรค ภท. ชัดเจนอยู่แล้วว่า ไม่แตะเกี่ยวกับ 112 อย่างไรก็ตามไม่ได้ฟังการปราศรัยของนายไตรรงค์ จะเอาสมาธิไปปราศรัยเรื่องของพรรคตัวเอง ย้ำว่านโยบายของพรรคที่ทำมาทั้งหมด ต้องแปะไว้ให้ตายตัว ไม่ใช่ไปฟังคนอื่นพูดแล้วจะมาแก้ เท่ากับไม่มั่นใจ และเราต้องสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเห็นว่านโยบายของพรรค ภท. นำเสนอมีประโยชน์ ปฏิบัติได้ ไม่ใช่ไปฟังคนนั้น คนนู้นพูดที แล้วมาแก้ไขของตัวเอง.