ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดข่าวลือมากมาย ข่าวจริงก็เยอะ แต่ก็ยากที่จะกลั่นกรอง ซึ่งข่าวลือที่เกิดขึ้น อาจจะมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน บางคนต้องการสะท้อนมุมมองทางสังคมในเวลานี้ว่า เป็นอย่างไร บางคนต้องการโยนประเด็นเพื่อหาคำตอบ แต่มีบางคนปล่อยข่าวหวังผลทางการเมือง บิดเบือน ทำลาย
ช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีการปล่อยข่าวออกมาว่า “แทน-ชัยชนะ เดชเดโช” ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะไม่ได้ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์แล้ว เนื่องจาก “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ “ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่พอใจ ส.ส.แทนในบางเรื่องบางประเด็น
นายหัวไทร ก็ยกหูหาเจ้าตัวโดยตรง แทนบอกว่า มันเป็นไปไม่ได้ ไม่เป็นความจริง จะเป็นไปได้งัย ผมเป็นแกนนำประชาธิปัตย์ ในนครศรีธรรมราช และ เป็นกรรมการบริหารพรรค และ ไม่ใช่แค่นั้น เพียงสองอาทิตย์คล้อยหลัง ก็มีการปล่อยข่าวออกมาอีกว่า แกนนำคนสำคัญสองคนของพรรคประชาธิปัตย์ในจังหวัดนครศรีธรรมราช จะไปลงสมัครในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)
“เป็นการปล่อยข่าว บิดเบือน จ้องทำลายของพรรคการเมืองบางพรรค ที่เขาเองยังไม่ลงตัว ผมอยากเรียกร้องให้ยุติการปล่อยข่าวทำลาย บิดเบือน มาทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์กันดีกว่า” แทน กล่าว
หลังจากนั้น ส.ส.แทน ก็ออกแถลงการณ์ย้ำจุดยืน ในการเดินหน้าไปสู่สนามเลือกตั้ง พร้อมว่าที่ผู้สมัครอีก 8 คน และ แถลงข่าวย้ำอีกครั้งที่รัฐสภา
นายหัวไทร ยกหูไปหา “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็กล่าวยืนยันเช่นกันว่า เป็นไปไม่ได้ที่แทนจะไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ และในพรรคก็ไม่มีการหารือกันถึงเรื่องนี้
ข่าวลือยังมีการปล่อยกันถึงขั้นว่า “ชำนิ ศักดิเศรษฐ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ และมีฐานะเป็นน้าของ “แทน” ได้นำตัว ส.ส.แทน ไปจับเข่าคุยกับ จุรินทร์แล้ว คุยกันรู้เรื่องแล้ว
ทั้งหมดนี้เป็นข่าวลือเกี่ยวกับ ส.ส.แทน กับ พรรคประชาธิปัตย์ในนครศรีธรรมราช วงน้ำชา-กาแฟ ถกกันแต่เรื่องนี้เป็นด้านหลัก แม้แทนจะรับบทเป็นเจ้าภาพใหญ่ในการจัดประชุมว่าที่ผู้สมัครในภาคใต้ ทั้งหมดระหว่าง 11-12 กุมภาพันธ์นี้ที่ รร.ทวิลโลตัส จ.นครศรีธรรมราช ข่าวลือเหล่านี้ก็ยังไม่จางหายไปเสียทีเดียว
เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นครศรีธรรมราช ได้ออกประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งออกมา 3 รูปแบบ เพื่อให้ประชาชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ข้อดี ข้อเสีย ของแต่ละรูปแบบ โดยให้เสนอความเห็นต่อ กกต.ภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้
หลังจากนั้น กกต.ก็จะประมวลผล และตัดสินใจ หลังวันที่ 28 กุมภาพันธ์ไปแล้ว แต่ก็เกิดข่าวลือขึ้นมาใหม่อีกว่า พรรคนั้นต้องการรูปแบบนี้ พรรคนี้ต้องการรูปแบบนั้น และลือถึงขั้นว่า ผู้สมัครบางคนไม่เอาทั้งสามรูปแบบ และเสนอรูปแบบที่สี่ขึ้นมาอีก พ่วงด้วยความเห็นคอเป็นเอ็นในวงน้ำชา คนนั้นจะย้ายเขตไปลงเขตโน้นที่ได้เปรียบกว่า คนนี้น่าจะไม่ได้ลงเขตแล้ว เพราะเขตใหม่ไปทับซ้อนกับอีกคน ส่วนจะย้ายไปอีกเขตก็ไม่ถนัด สงสัยจะต้องไปสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ
หรือลือกันแม้กระทั้งว่า ว่าที่ผู้สมัครบางคนยืนยันว่า ถ้าไม่ได้ลงในเขตเดิมที่เขาถนัด อาจจะถึงขั้นย้ายพรรคก็มี แต่ทั้งหมดนี้คือ “ข่าวลือ” ข่าวลืออาจจะจริง หรือไม่จริงก็ได้ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ข่าวลือนั้นเป็นข่าวจริงหรือไม่
วันเวลาจะพิสูจน์อยู่สองช่วง ช่วงแรกคือ หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง เคาะการแบ่งเขตชัดเจนแล้วว่า เลือกรูปแบบไหน ว่าที่ผู้สมัครก็จะชัดเจนถึงว่าจะลงเขตไหน พรรคไหน ระบบไหน ระยะที่สองคือ วันสมัครรับเลือกตั้ง ก็จะชัดเจนแน่นอนว่า ใครจะได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือ ใครไม่ได้ลง หรือได้ลงเขตไหนชนกับใคร
ในสถานการณ์นี้ บางพรรคยังไม่นิ่งพอ แต่ดูเหมือนกันว่า พรรคภูมิใจไทย จะสงบ และนิ่งแล้วกับว่าที่ผู้สมัครทั้ง 9 คน โดยมี “อารี ไกรนรา” เป็นลมใต้ปีก พร้อม ทีมยุทธศาสตร์ ร่วมกำหนดแนวทางในการต่อสู้ร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร วันเสาร์อาทิตย์นี้ ประชาธิปัตย์ประชุม ว่าที่ผู้สมัครภาคใต้ทั้ งหมดที่นครศรีธรรมราช ภูมิใจไทย ก็จะจัดอบรมทักษะการพูด จิตวิทยามวลชน การเตรียมข้อมูลปราศรัย
วันนี้เรื่องราวบางเรื่องยังเป็นแค่ข่าวลือ “ฟังหูไว้หู” กับข่าวการเมือง บางข่าวอาจจะปล่อยมาเพื่อหยั่งเชิง โยนหินถามทาง แต่บางข่าวโยนมาเพื่อทำลาย สร้างความปั่นป่วนให้กับพรรคการเมืองคู่แข่ง !
#นายหัวไทร