“ธนกร”มั่นใจ! กระแส “บิ๊กตู่”พุ่งชูจุดแข็ง”ซื่อสัตย์-ผลงานชัด”นำรทสช.ชนะลต.

“ธนกร “มั่นใจกระแส”บิ๊กตู่”พุ่งฉุดไม่อยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคใต้ เรียกร้องให้อยู่ต่อ ชูเป็นนายกฯ ซื่อสัตย์-ไม่โกง เผย รทสช.เตรียมทยอยเปิดนโยบาย พร้อมเดินสายปราศรัยทั่วไทย

วันที่ 10 ก.พ. 2566 นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มั่นใจว่า กระแสนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นั้น นับวันก็ยิ่งดีวันดีคืน จากการลงพื้นที่ทั่วประเทศกระแสพุ่งขึ้น โดยเฉพาะภาคใต้นั้น เสียงตอบรับถือว่าแรงมาก เพราะภาพลักษณ์ของคนที่จะมาเป็นนายกฯ ในสมัยหน้านั้น ประชาชนมองว่าสำคัญที่สุดคือต้องซื่อสัตย์ ไม่โกง สานต่อนโยบายของรัฐบาลทุกนโยบายที่โดนใจประชาชน ซึ่งทีผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า มุ่งมั่นกับการทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนมากกว่าการตอบโต้ทางการเมือง และเด็ดขาดกับการทุจริตคอรัปชั่นทั้งนี้ เชื่อว่ายิ่งใกล้ถึงวันเลือกตั้ง พรรครวมไทยสร้างชาติ จะยิ่งได้รับเสียงตอบรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะการบริหารประเทศในช่วงเวลาที่ผ่านมาของ พล.อ.ประยุทธ์ มีผลงานชัดเจน จับต้องได้ เป็นรูปธรรม เช่นเดียวกับระบบการจัดการภายในพรรคที่ดี ยิ่งจะส่งเสริมให้พรรคได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากขึ้นด้วย โดยพรรคจะเริ่มทยอยเปิดนโยบายออกมาในเร็วๆ นี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องประชาชน พร้อมจะมีการปราศรัยทั่วประเทศด้วยเช่นกัน

“เชื่อว่าวันนี้หากมองด้วยความเป็นกลางจะเห็นตรงกันว่า จุดแข็งของท่านนายกฯ คือ ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เท่าที่ฟังกระแสเรียกร้องของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ นั้น ต่างเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ แสดงให้เห็นว่า ประชาชนยังให้การสนับสนุนท่านนายกฯ อยู่ เพราะอย่าลืมว่า วันนี้ประชาชนเข้าใจกับคำว่าประชาธิปไตยมากขึ้น เข้าใจว่าทุกพื้นที่ทั่วประเทศประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของ ไม่มีใครเป็นเจ้าของพื้นที่ได้ตลอด ดังนั้น การเลือกตั้งสมัยหน้าจึงเป็นเรื่องที่ทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่ พรรคกลาง หรือพรรคขนาดเล็ก จะต้องแข่งขันกันที่นโยบาย รวมถึงการลงพื้นที่รับฟังปัญหาอย่างใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนเพื่อนำมาจัดทำเป็นนโยบายพรรคเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่จะเป็นสิ่งจูงใจให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจลงคะแนนให้” นายธนกร กล่าว