‘ชูวิทย์’แฉหนัก’นครบาลตั้งด่านรีดไถหนักส่งนาย รายได้เดือน 200 ล้าน ฉี่ม่วงเรียกเป็น’แสน’

95

ชูวิทย์’ออกโรงแฉ ตำรวจนครบาลตั้งด่าน ‘รีดไถ’ เป็นลำเป็นสัน บุหรี่ไฟฟ้ายันยาเสพติด เผยฉี่ม่วง รีดหนักนับแสนบาท รายได้ส่งนาย แต่ละด่านรายได้เดือน 200 ล้าน

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ได้ออกม่โพสต์ล่าสุดพฤติกรรทของตำรวจนครบาลว่า ได้นำพยานคนสิงคโปร์ ชื่อเล่น “สกาย” ที่โดนตำรวจไถเงิน 27,000 บาท ที่ด่านรีดไถรัชดา มาสัมภาษณ์

วันนี้ คนดีกลัวด่าน แต่คนร้ายไม่กลัว เพราะจ่ายได้

เมาอัตรา 20,000 – 30,000 บาท

ฉี่ม่วง 100,000 บาท

หากต่างชาติโดนแน่ ของชอบ เพราะขู่ง่าย จ่ายง่าย จบง่าย

แค่บอกว่า “ต้องไปติดคุก ตม.” และส่งตัวกลับ เป็นแบล็คลิสต์อีก เข้าไทยไม่ได้ตลอดไป

ด่านทุกด่าน จะตั้งได้ต้องมีเป้า 100,000 บาท หาให้นาย แล้วเด็กๆ จะไม่รีดไถได้ไง?

สกาย และ ชาลีน ดาราสาวไต้หวัน นั่งแกร๊บมากัน 4 คน จับบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งๆ ที่ขายกันเปิดเผยตามตลาดห้วยขวาง นักท่องเที่ยวจะรู้ไหมว่าผิดกฎหมายแบบนี้?

เท่ากับคนขายก็ต้องจ่ายถึงขายได้ ส่วนคนซื้อ หากโดนจับก็ต้องจ่ายอีก

แต่ประเทศชาติไม่ได้อะไรสักบาท

ทีกัญชาเปิดขายเสรี แต่บุหรี่ไฟฟ้าตำรวจก็สูบ ดันจับคนอื่นเวลาตั้งด่าน หรือแถวสุขุมวิท เห็นฝรั่งเดินดูด เป็นถูกสะกิดจับ โดนกันมาเยอะ

แม้แต่ตรวจฉี่ หากพบม่วง ไม่อยากมีปัญหา 100,000 บาท ให้กดโอนเข้าบัญชีม้า หรือไปกดเงินสด หรือให้เพื่อนไปเอาเงินมาให้ รอได้ทั้งคืน

ที่ได้ประจำเป็นพื้นฐานคือ “ตรวจเมา” ไถกัน 10,000 – 30,000 บาท ดูจากอัตราความกลัว หากลนลานไปถึง 50,000 บาท

แต่ก่อนด่านน้อย เพราะบ่อนเปิด แต่ตอนนี้บ่อนปิด เลยหากินกับด่านแทน

ตั้งเป้าด่านละ 100,000 คูณ 30 วัน ก็ 3 ล้าน แล้ว มี 88 สน. คิดดู ได้ 200 กว่าล้านต่อเดือน

ส่วนจราจรกลางก็ไม่เบา เพราะตั้งด่านได้ทั่วกรุงเทพฯ นึกอยากจะตั้งก็ตั้ง หากได้ตามเป้าก็โอเค ไม่งั้นโดนเบิ้ลครั้งหน้า 2 ต่อ

.พยานสิงคโปร์ยอมมา เพราะไว้ใจผมมากกว่าตำรวจไทย

นี่หากทำโพลล์ได้ คนไทยเชื่อใครมากกว่า ระหว่าง ผบช.น. กับ ชูวิทย์ อยากดูเหมือนกันว่าผลเป็นไง

แต่ฟังหนุ่มสิงคโปร์ชื่อ สกาย แล้วสะอึก บอกไม่เคยพบแบบนี้ที่ไหน

ก็เลยให้ “ปี๊บ” ไว้คลุมหัว และ “เตารีด” ไว้เป็นสัญลักษณ์การรีดไถ

นายกฯ ไม่ต้องไปเดินหาเสียงทำท่าให้ชาวบ้านผูกผ้าขาวม้า แค่มาจัดการเรื่อง “คอรัปชั่น” ฟันเสียทีเถอะ

อย่าไปเพ้อเจ้อว่า “ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย” เพราะมีแต่ฝั่งประชาชนที่เสียเงิน เสียประโยชน์ จนเหลือแต่กางเกงใน

แต่อีกฝั่งได้ทุกอย่าง ขี่รถซุปเปอร์คาร์คันละ 30-40 ล้าน ห้อยนาฬิกาหรู 10-20 ล้าน

มันจะเป็นธรรมได้ไงครับ? เพราะเงินที่ได้ มาจากการรีดไถชาวบ้าน แม้แต่คนต่างชาตินักท่องเที่ยวก็ไม่เว้น

ไหนว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว ผมว่าจะเป็นเมืองรีดไถเอานะครับต้องทำอนุสาวรีย์ไว้เป็นสัญลักษณ์

“เมืองเตารีดกับปี๊บ”