ป่วนใต้อีก! บุกจ่อยิงทหารพราน ดับคาร้านขายของชำ จนท.เร่งล่า พบเบาะแสสำคัญ

กลุ่มก่อความไม่สงบ ป่วนใต้อีกระลอก ขับขี่จักรยานยนต์ บุกจ่อยิงทหารพราน สังกัด ร้อย ทพ.4407 ที่อยู่ระหว่างลาพัก และช่วยภรรยาขายของชำ ดับคาที่ หลัง สาดระสุนใส่3นัด จนท.เร่งล่า เชื่อจับตัวได้แน่ หลังพบเบาะแสทั้งก่อนและหลังก่อเหตุ

วันที่ 30 ม.ค. 2566 เวลา 09.00 น. พ.ต.อ.เฉลิมชัย เพชรกาศ ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานและชุดสืบสวนสอบสวน เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุกรณีมีคนร้ายลอบยิง อส.ทพ.อิลฟัน ยูโซะ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.4 ต.ไม้แก่น อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เสียชีวิตภายในร้านขายของชำ ในพื้นที่ ม.2 ต.มะนังดาลำ จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุตั้งแต่เมื่อคืน เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุเพื่อทำการตรวจหาวัตถุพยานอีกครั้ง

ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ หน่วยพิสูจน์หลักฐานปัตตานีได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งรอยนิ้วมือแฝงและชิ้นส่วนหัวกระสุน เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ว่า มีข้อมูลเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายที่เคยก่อเหตุพื้นที่ใดบ้าง นอกจากนี้ ได้เรียกพยานในที่เกิดเหตุมาสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พอทราบเบาะแสของคนร้ายแล้ว โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่พบความเคลื่อนไหวของคนร้ายทั้งก่อนและหลังก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน เชื่อว่าน่าจะรู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ โดยตั้งมูลเหตุครั้งนี้ไว้ 2 ประเด็น เรื่องสร้างสถานการณ์ และเรื่องส่วนตัว

สำหรับพฤติกรรมการก่อเหตุทราบว่า ผู้ตายเป็นเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัด ร้อย ทพ.4407 กรมทหารพรานที่ 44 ก่อนเกิดเหตุทราบว่า ผู้ตายอยู่ระหว่างลาพักและได้มาพักอยู่บ้านของภรรยา โดยเปิดร้านขายของชำอยู่ข้างบ้าน ระหว่างที่ผู้ตายช่วยภรรยาจัดของในร้าน ปรากฏว่าได้มีคนร้ายสองคนขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน โดยคนร้ายที่ซ้อนท้ายเดินลงจากรถทำทีเดินเข้ามาจะซื้อของ ระหว่างที่ผู้ตายเผลอคนร้ายได้ชักอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดจ่อยิง อส.ทพ.อิลฟัน จำนวน 3 นัด กระสุนปืนเข้าบริเวณ ใต้รักแร้ 1 นัด ศรีษะ 1 นัด และหน้าอก 1 นัด จนล้มกองกับพื้นเสียชีวิตทันที หลังก่อเหตุคนร้ายได้วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ก่อนจะเร่งเครื่องหลบหนีไป

ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ พ.อ.ภาคภูมิ จันทรักษ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ได้ทำการสนธิกำลังหน่วยเฉพาะกิจร่วมกระจายกำลัง ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เกิดเหตุและพื้นที่เป้าหมายที่เชื่อว่าคนร้ายจะหลบซ่อนตัวโดยมีแนวร่วมในพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบที่มีความพยายามสร้างสถานการณ์โดยการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อหวังแสดงศักยภาพในการตอบโต้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่