พท. ฉะ “บิ๊กตู่” ชิ่งตอบกระทู้สด “ทุนจีนสีเทา-ตั๋วนำเที่ยวVIP” ลั่นอย่ายุบสภาหนี

“จิรายุ ห่วงทรัพย์” สส.เพื่อไทย ฉะ นายกฯ และ รมว.ท่องเที่ยวฯ หนีตอบกระทู้สด “ทุนจีนสีเทา-ตั๋วนำเที่ยววีไอพี” อ้างติดภารกิจ ลั่นอย่ายุบสภาหนีซักฟอก

วันที่ 26 มกราคม 2566 ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีการตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาในวันนี้ (26 ม.ค.) ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้รับหน้าที่ให้ถามกระทู้สด 2 กระทู้ และมีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ด้วย 1 กระทู้ โดยตนและพรรคก้าวไกล จะถามกระทู้เรื่องทุนจีนสีเทาในกรณีที่เข้ามาก่ออาชญากรรมและมีการข่มขู่พยาน รวมถึงตั๋ววีไอพีของนักท่องเที่ยวจีนที่มีการใช้บริการเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการขายบัตรอิดิสการ์ด ซึ่งเป็นบัตรวีไอพีให้กับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ราคา 5 แสนบาท ถึง 2 ล้านบาท ปรากฏว่าผู้ที่ขายคือกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้ขายให้กลุ่มทุนจีนสีเทาหลายคน ที่นักท่องเที่ยวหลายคนใช้สิทธิพิเศษนี้ผ่านตม.เข้ามา และซื้ออสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ปี 62 เป็นต้นมา จึงได้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีและรมว.ท่องเที่ยวฯ แต่ทั้ง 2 ท่านปฏิเสธและบอกว่าติดภารกิจซึ่งเป็นคำยอดฮิต แต่ในรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนว่าคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต้องมาตอบชี้แจงกระทู้ถามสดของที่ประชุมสภาฯ

“ท่านจะอธิบายว่าไม่ทราบล่วงหน้าไม่ได้ เพราะท่านนายกฯจะต้องเตรียมแสตนบายเพื่อที่จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาตอบแทน ฉะนั้น วันนี้(26 ม.ค.) แม้ว่าท่านจะไม่มาตอบแต่ผมก็จะขอถามทิพย์ ถามไปอย่างนั้น ถามท่านประธานไป แม้ท่านประธานจะตอบได้หรือไม่ได้ ก็คงไม่ตอบอยู่แล้ว เพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าปลายเทอมของงรัฐบาลชุดนี้ ผมไม่เคยเห็นนายกฯมาตอบกระทู้เลย ครั้งที่แล้วมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯมาตอบ ก็ตอบไม่ชัดเจน ผมคิดว่าหากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ทักท้วงก็รีบๆยุบสภาไปเลย เสียเวลาประเทศชาติและประชาชน” นายจิรายุ กล่าว

เมื่อถามว่า แม้ไม่ได้ตั้งกระทู้ถามวันนี้(26 ม.ค.) ฝ่ายค้านจะพิจารณานำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 หรือไม่ นายจิรายุ กล่าวว่า เราเอาเวลาอันใกล้ก่อน ในเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ในรัฐธรรมนูญเขียนว่ากระทู้สดต้องรีบถาม ถ้าไม่ถามก็จะเกิดปัญหา การอภิปรายมาตรา 152 หลังวันที่ 15 ก.พ. คิดว่าช้าไป ฉะนั้น สัปดาห์หน้าตนจะยื่นถามอีก

“ผมก็จะหน้าด้านถามอีก ส่วนท่านจะมาตอบหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน ประชาชนจะเป็นผู้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้อยู่มา 8-9 ปี ทำอะไรแบบไหนอย่างไร ขนาดใช้กระบวนการถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร เรื่องของทุนจีนสีเทาน่าสนใจ ฉะนั้น อย่าปล่อยให้ประชาชนมาทำการตรวจสอบ เราเป็นส.ส.ทำไมไม่ทำการตรวจสอบ ทั้งนี้ นอกจากการยื่นกระทู้ถามสดก็คงจะต่อเนื่องไปถึงอภิปรายมาตรา 152 แน่นอน ฉะนั้น อย่าพึ่งรีบยุบสภาหนีไปก่อน ก็แล้วกัน แต่หากจะยุบก็รีบยุบเสาร์ อาทิตย์ นี้เลย” นายจิรายุ กล่าว

เมื่อถามว่ากรณีที่จะมีการตั้งกระทู้ถามจะมีเรื่องความทุจริตด้วยหรือไม่ นายจิรายุ กล่าวว่า ความทุจริตถ้าไล่กันมามีอยู่ประมาณ 10 กว่ากระทรวง เพราะล่าสุดภาคเอกชนก็มาเปิดเผยถึงเรื่องการทุจริตกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จริงๆมีหลายกระทรวงมาก ฝ่ายค้านทำงานแตะตรงไหนก็เจอทุจริตมากมาย ฉะนั้น เรื่องของทุนจีนสีเทา หรือเรื่องการใช้ทรัพยากรของรัฐโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงเรื่องแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการ ถ้าเป็นรัฐบาลชุดอื่น ตายกันยกครัวแล้ว หมายถึงครม.ลาออกกันหมดแล้ว แต่นี่ก็ยังเนียนๆให้เวลารักษาแผลใจกันไปเรื่อยๆ โดยวันที่ 15 ก.พ. จะเป็นการเปิดแผลราวไปถึงรากแน่นอน

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับคำตอบของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เรื่องทุนจีนสีเทาและรถนำขบวนว่าจะจัดการ นายจิรายุ กล่าวว่า ท่านนายกฯพูดแบบนี้เหมือนเป็นแผ่นเสียงตกร่อง เวลามีเรื่องอะไรที่ข้าราชการทำไม่ถูกต้องท่านก็จะบอกว่า ผิดก็ต้องลงโทษ แต่วิธีการป้องกันและปราบปรามเป็นอย่างไร ให้ท่านเขียนให้ชัดว่า ตำรวจมีหน้าที่แบบไหนอย่างไร ถ้าไม่ใช่ก็คือผิด ซึ่งผิดก็ไม่ได้ผิดตั้งแต่นายกฯ ก็ต้องผิดถึงผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องทั้งหลายตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว การที่นายกฯตอบ ไม่ได้บอกว่าท่านจะเป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต หรือเป็นคนที่มือสะอาดอยู่เสมอ แต่การที่เห็นคนทำร้ายกัน มีการทุจริตแต่ท่านไม่ได้เข้าไปห้าม ตนถือว่าผิดกฎหมาย ฉะนั้น ขอให้ท่านรีบสั่งการ ปีนี้ตั้งต้นปีมีแต่ข่าวไม่ดีของรัฐบาล ทำให้ประชาชนคาดหวังไม่ได้