รองโฆษกอัยการสูงสุด สั่งตร.สน.บางยี่ขันสอบสวนเพิ่มเติม ทั้งสองฝ่าย คดี อดีตรองนายกฯฟ้องอดีตสาวคนสนิทและครอบครัวรวม4รายฉ้อโกง ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
วันที่ 12 มกราคม 2566 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากนายจิระประวัติ แบบประเสริฐ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาตลิ่งชัน ถึงความคืบหน้าคดีอดีตรองนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน เพื่อดำเนินคดีกับอดีตสาวคนสนิท และครอบครัวรวม 4 คน ข้อหาฉ้อโกงว่า คดีนี้เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ได้ยื่นคำร้องผัดฟ้องผู้ต้องหาครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.65 ครั้งที่ 2 วันที่ 22 ธ.ค.65 ครั้งที่ 3 วันที่ 28 ธ.ค.65 ครั้งที่ 4 วันที่ 3 ม.ค.66 และครั้งที่ 5 วันที่ 9 ม.ค.66 ซึ่งเป็นการฝากขังครั้งสุดท้าย
สำหรับความผิดคดีแขวง ซึ่งสามารถยื่นคำร้องผัดฟ้องได้ 5 ครั้งๆละ 6วัน รวม 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันสุดท้ายวันที่ 15 ม.ค.นี้ โดยพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน สรุปสำนวนส่งให้อัยการคดีอาญาตลิ่งชัน 2 พิจารณาเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานอัยการต้องพิจารณาสั่งคดีภายในวันที่ 15 ม.ค.นี้ตามกฎหมาย
“เบื้องต้นเมื่อพนักงานอัยการตรวจคำให้การและพยานหลักฐานในสำนวนแล้ว พบว่า คำให้การของอดีตรองนายกรัฐมนตรี ผู้เสียหายยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ รวมทั้งหนึ่งในผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาให้อัยการพิจารณาด้วย พนักงานอัยการ จึงมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน สอบสวนเพิ่มเติมทั้ง 2 กรณี หากพนักงานอัยการ ยังไม่ได้รับผลสอบเพิ่มเติมจากพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขันตามกำหนดเวลาแล้ว ดังนั้นหากอัยการจะยื่นฟ้องคดีก็จะต้องขออนุญาตฟ้องจากอัยการสูงสุดตามกฎหมายก่อน โดยอัยการจะพิจารณาพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนโดยละเอียด รอบคอบ และให้ความเป็นธรรมแก่คู่ความทั้ง 2 ฝ่าย” นายโกศลวัฒน์ กล่าว