ได้เจอกับ นายสิทธิรัก ทิพย์อักษร หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันในนาม “ นายหัวสิทธ์” ในวันที่ผมลงไปปลูกจาก ในป่าพรุควนเคร็ง ซึ่ง นายหัวสิทธิ์เป็นคนหนึ่ง ที่ให้การสนับสนุนโครงการ “หิ้วชั้น แบกจอบ ไปปลูกจาก” และร่วมกิจกรรมปลูกจากจนจบสิ้น
นายหัวสิทธิ์ ถ้ามองจากภาพลักษณ์ภายนอก เขาน่าจะคือ ชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง ไว้ผมยาว ไว้หนวด ไว้เครา ไม่พิถีพิถันกับการแต่งตัว แต่ลึกๆแล้ว นายหัวสิทธิ์ เขาเป็นนักธุรกิจในวงการอสังหาริมทรัพย์ และ รับเหมาก่อสร้างครบวงจรรายใหญ่ ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ เมื่อธุรกิจลงตัว เขาย้อนกลับมาดูแลบ้านเกิด มองเห็นปัญหามากมาย จึงไม่นิ่งนอนใจ ด้วยการเริ่มต้นก่อตั้ง “ชมรมสำนึกรักษ์บ้านเกิด” ไฟไหม้ น้ำท่วม โควิด ทุนการศึกษา ส่งเสริมกิจกรรมกีฬา เป็นภารกิจที่เข้าทำ และยังมีอีกมากมาย
นายหัวสิทธิ์ เปิดเผยกับ #นายหัวไทร ว่า ชมรมสำนึกรักษ์บ้านเกิด มีภารกิจในการอนุรักษ์ป่า ส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน ช่วยเหลือเกษตรกร ชาวบ้าน ทุกปัญหาเราไม่ได้นิ่งเฉย ต้องยื่นมือเข้าไปช่วย นอกเหนือ จากการช่วยเหลือจากภาครัฐ เราเป็นส่วนของชาวบ้านจับมือกัน ร่วมแรงร่วมใจกัน ที่ผ่านมาก็ทำหลายอย่าง น้ำท่วม ไฟไหม้ โควิดระบาด การส่งเสริมการเล่นกีฬา“เราทำมาหลากหลายมาก ส่งเสริมคนดีให้มีความก้าวหน้า เยาวชนเราก็ให้ทุนการศึกษา ผมไม่ได้ถือว่าชะอวดคือบ้านเกิด แต่บ้านเกิดผมคือประเทศไทย ตรงไหนเดือดร้อนผมก็เข้าไปช่วยเหลือ”
นายหัวสิทธิ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า เพิ่งไปสร้างโรงเรียน ตชด.ที่เชียงใหม่ด้วยทุนส่วนตัวเกือบสองล้านบาท ใครเดือดร้อนอะไร เราก็จะมาพิจารณาเพื่อให้การช่วยเหลือ สิ่งที่คิดว่าจะทำแต่ยังไม่ได้ทำยังมีอีกมาก สรรหามาเป็นคำพูดยาก “ผมอยากสร้างความสุขให้กับตัวผมเอง อยากมีความสุขมากๆ ตอนนี้ก็มีความสุขระดับหนึ่ง แต่อยากเห็นคนอื่นมีความสุขด้วย ผมจะมีความสุขมากๆ ถ้าเห็นพี่น้องของผมมีความสุข”
สิทธิรัก กล่าวอีกว่า ภารกิจต่อไปที่ตั้งใจจะทำ คือการเป็นตัวแทนของชาวชะอวดในภาคการเมือง “ที่ผ่านมาผมก็ช่วยเหลือทุกคน แต่ไม่ได้ดั่งใจเท่าที่ควร จึงปรึกษาหารือกับทีมงาน และตัดสินใจลงสมัครเอง”
ทั้งนี้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา “นายหัวสิทธิ์” ให้การสนับสนุน อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ในการเลือกตั้งซ่อม และ ก็ชนะการเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชารัฐ ส่วน “นายหัวสิทธิ์” เสนอตัวลงสมัครในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ รอ มติจากพรรค แต่ไม่น่ามีปัญหา จะสับหลีกกันกับ พงศ์สิน เสนพงศ์กล่าวสำหรับเขตเลือกตั้งในโซนชะอวด จุฬาภรณ์ เฉลิมพระเกียรติ พระพรหม มี “อาญาสิทธิ์” เป็น ส.ส.อยู่ ในนามพรรคพลังประชารัฐ คู่แข่งที่ปรากฏตัวขัดแล้ว มี “ณัฐกิตติ์ หนูรอด” จากพรรคภูมิใจไทย ที่เวลานี้ถือว่าเป็นคู่แข่งเต็งหนึ่งอยู่ มี สิทธิรัก ทิพย์อักษร จากพรรครวมไทยสร้างชาติ และถ้าแบ่งเขตชัดเจนแล้ว ร่อนพิบูลย์ บางส่วนมาอยู่เขตนี้ด้วย “ชัยชนะ เดชเดโช” ส.ส.ประชาธิปัตย์ อาจจะมาลงเขตนี้ด้วย ให้ ยุทธการ รัตนมาศ ไปลงโซนหัวไทร-เชียรใหญ่
“นายหัวสิทธิ์” เคยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวทะเลใต้TV.ตอนหนึ่งว่า สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้สนับสนุน ส.ส.คนปัจจุบัน ทุกคนแสดงเจตนาหันมาให้การสนับสนุนตน ในการลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตอำเภอ ชะอวด จุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์ เฉลิมพระเกียรติ และ เชียรใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกับ ส.ส.ที่พวกเขาลงมติถอนการสนับสนุนในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนจึงได้ทำการเปิดตัวต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตเลือกตั้ง เพื่อแสดงความตั้งใจในการทำงานการเมือง
ศูนย์ข่าวทะเลใต้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สิทธิรัก ทิพย์อักษร เปิดตัวโดยชู จุดขายความเป็นนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ มีจิตอาสา เติบโตมาจากพื้นฐานครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน แต่เป็นผู้มีความมุมานะในการศึกษาเล่าเรียนจนสำเร็จ ปริญญาตรีทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า และ ประกอบสัมมาชีพทำธุรกิจส่วนตัวจนประสบความสำเร็จ และมีฐานะมั่นคงนอกจากนี้ตลอดระยะเวลา 15 ปีของการดำเนินธุรกิจ “นายหัวสิทธิ์” ยังได้รวมกลุ่มเพื่อนๆ ก่อตั้งโครงการ ”สำนึกรักบ้านเกิด” ทำกิจกรรมโครงการจิตอาสาไปสู่ครอบครัวและเยาวชนที่ยากจน ด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดารโดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งมีโรงเรียน ตชด.ตั้งอยู่ทั่วประเทศ ในนามโครงการคาราวาน “พี่ให้น้อง”ซึ่งนอกจากจะนำเครื่องอุปโภค บริโภค อุปกรณ์กีฬา ฯลฯ ไปมอบให้แล้ว ยังได้ร่วมกันจัดสร้างอาคารเรียนถาวรให้ในหลายพื้นที่อีกด้วย
โดยเขาให้เหตุผลว่าเป็นเพราะตนเองเป็นเด็กที่เติบโตมาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจน เมื่อมีโอกาสจึงอยากจะแบ่งปันและพยายามสร้างโอกาสให้กับทุกคน เช่นเดียวกับตน ที่ได้รับโอกาสจากการได้มาอาศัยหลับนอนกินอยู่ในอาคาร “รักเมืองไทย” ที่โรงเรียนวัดเขาพระทอง อ.ชะอวด จนเกิดแรงบันดาลใจที่รู้สำนึกและตอบแทนคุณแผ่นดินตามปณิธานของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบุรุษ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิรักเมืองไทยที่ตนจดจำฝังใจมาตั้งแต่วัยเด็กจนปัจจุบัน !
#นายหัวไทร #นายหัวสิทธิ์