กลายเป็นคลิป อื้อฉาว! ที่ชาวเน็ตได้มีการแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ในการประชุมข้าราชการกระทรวงมหาดไทยที่มี “ปลัดมหาดไทย” สุทธิพงษ์ จุลเจริญ เป็นประธาน พร้อมด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด่ทอ ข้าราชการชั้นผู้น้อยอย่างรุนแรง วิโรจน์ จี้รมว.หมาดไทย จัดการ ชี้ปลัดไม่เข้าใจคำว่า ตลาดสมบูรณ์
30 ธ.ค.2565 – ขณะนี้ชาวเน็ต มีการแชร์ต่อคลิปการประชุมข้าราชการระทรวงมหาดไทย โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน มีการถ่ายทอดระบบซูมไปยังหลายจังหวัด โดยช่วงหนึ่งได้เปิดให้ข้าราชการรายหนึ่งรายงานเกี่ยวกับพัฒนาสินค้าของราชทัณฑ์ โดยมีรายละเอียดคำต่อคำดังนี้
ข้าราชการชั้นผู้น้อย “การลงพื้นที่เกษตรกรที่ปลูกผักผลไม้ โดยเริ่มหาพื้นที่ เก็บเกี่ยว นำส่ง”
หลังข้าราชการผู้นี้พูดขบจบ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวขึ้นว่า “อุปสงค์เท่ากับอุปทาน ภาษาเศรษฐศาสตร์เขาคืออะไรรู้ป่ะ มีศัพท์ว่าไงนะ”
ข้าราชการชั้นผู้น้อย “ดีมานด์ ซัพพลายครับท่าน”
ปลัดมหาดไทย หัวเราะ “โธ่เอ้ย จบอะไรมาวะ”
ข้าราชการชั้นผู้น้อย “จบรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ครับ”
ปลัดมหาดไทย “ทำไมโง่อย่างนั้นวะ คุณรุ่นอะไร”
ข้าราชการชั้นผู้น้อย “รัฐศาสตร์ความสัมพันธ์ประเทศครับ”
ปลัดมหาดไทย “โง่เป็นควายเลยไอ้เ-ยเอ้ย
ปลัดมาดไทย ได้ทีถามต่อ “เข้าปีไร”
ข้าราชการชั้นผู้น้อย “ปริญญาโทครับท่านครับ”
ปลัดมหาดไทย “อ๋อๆๆ กูว่าแล้ว เพราะคนที่เรียนรัฐศาสตร์จุฬาฯ เขาเรียนเศรษฐศาสตร์สองตัว อุปสงค์เท่ากับอุปทานเรียกว่า ตลาดสัมบูรณ์ คุณเอาความต้องการราชทัณฑ์และมาบอกว่าเท่ากับซัพพลายของภาคเกษตร มันไม่ใช่ มันไม่ใช่ ถ้าใช่ คุณต้องพาสินค้าเกษตรออกนอกทำไมเล่า คุณมีตลาดสัมบูรณ์แล้ว คุณต้องช่วยอะไรเล่า จบปริญญาตรีที่ไหนหล่ะ
ข้าราชการชั้นผู้น้อย “มหาวิทยาลัยสยามครับท่านครับ”
ปลัดมหาดไทย “กูว่าแลว แล้วคุณไปเรียนรัฐศาสตร์จุฬา ปริญญาโท ภาคผู้บริหารหรือภาคปกติ”
ข้าราชการชั้นผู้น้อย “โครงการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ”
ปลัดมหาดไทย “แปลว่าไรวะ”
ข้าราชการชั้นผู้น้อย “เป็นหลักสูตรหลังเลิกเรียนครับท่านครับ”
ปลัดมหาดไทย “เฮ้ย! ขจร คุณไปคุยคณบดีนะมึง เอี้ย โธ่ มหาวิทยาลัยเดี่ยวนี้ชอบหาตังค์ เปิดหลักสูตรไรไม่รู้มั่วไปหมด คำถามคือคุณภาพ มาตอบเป็นโจ๊ก เฮ้อ!”
ด้านนานวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยว่า จะดำเนินการอย่างไร เมื่อปลัดกระทรวงมหาดไทย ด่าลูกน้องว่า “จบอะไรมา โง่เป็นควายเลยไอ้เxี้ยเอ๊ย!” ]
นายวิโรจน์ ระบุว่า ได้รับทราบถึงความคับแค้น และความไม่สบายใจของข้าราชการกระทรวงมหาดไทยเป็นอย่างมาก ต่อกรณีที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้ใช้คำพูดที่เข้าข่ายการเหยียดหยามศักดิ์ศรี และดูถูกการศึกษาของผู้ใต้บังคับบัญชา ต่อหน้าคนอื่นๆ ระหว่างการประชุม เข้าใจว่าเป็นการประชุมเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา
.
หลายประโยค เป็นคำพูดที่ขาดวุฒิภาวะอย่างร้ายแรง
.
มีการยิ้มเยาะ ก่อนถามผู้ใต้บังคับบัญชาว่า “จบอะไรมาวะ” พอผู้ใต้บังคับบัญชาตอบว่า “รัฐศาสตร์จุฬาฯ ครับ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังได้สำทับต่อว่า “ทำไมมันโง่อย่างนั้นวะ!” แล้วยังถามต่ออีกว่า “คุณรุ่นอะไร” ก่อนที่จะด่าว่า “โง่เป็นควายเลยไอ้เxี้ยเอ๊ย!” และยังถามต่ออีกว่า “คุณเข้าปีอะไร”
.
พอทราบว่าผู้ใต้บังคับบัญชาจบปริญญาโท ก็ยังอุทาน ในเชิงดูแคลนต่ออีกว่า “โอ้! กูว่าแล้ว” แล้วยังถามจี้ในเชิงบูลลี่ต่ออีกว่า “แล้วปริญญาตรีจบที่ไหน” พอผู้ใต้บังคับบัญชาตอบว่า “มหาวิทยาลัยสยาม” ก็ยังอุทานในเชิงเย้ยหยันซ้ำอีกว่า “โอ้! กูว่าแล้ว”
.
จากนั้นปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังคงถามจี้ไม่หยุด โดยถามต่ออีกว่า “รัฐศาสตร์ปริญญาโท นี่ภาคผู้บริหาร หรือภาคปกติเนี่ย” พอผู้ใต้บังคับบัญชาตอบว่า “เป็นหลักสูตรหลังเลิกเรียน” ก็ยังจะหัวเราะเยาะเย้ย เหยียดผู้ใต้บังคับบัญชาซ้ำอีก
.
พฤติกรรมเช่นนี้ ไม่ใช่การให้คำแนะนำกแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาที่สร้างสรรค์เลย แต่เป็นการเหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ ไม่ควรที่จะกระทำแก่กัน
.
พฤติกรรมแบบนี้ เป็นการกระทำที่ขาดวุฒิภาวะ และไร้ภาวะผู้นำโดยสิ้นเชิง
หากองค์กรปล่อยปละให้หัวหน้างานประพฤติตนเช่นนี้กับลูกน้อง โดยไม่คิดจะแก้ไข นับวันมีแต่จะทำลายขวัญกำลังใจของผู้ใต้บังคับบัญชา และทำลายบรรยากาศในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ขององค์กรให้ย่อยยับลง
.
เปิดตำรา HR ไม่ว่าเล่มไหน ก็ไม่มีทางยอมรับหัวหน้างาน ที่มีพฤติกรรมแบบนี้
.
สังคมจึงต้องร่วมกันตั้งคำถามกับ รมว.มหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ว่าจะจัดการอย่างไรในเรื่องนี้ จะปล่อยให้คนที่มีพฤติกรรมกับลูกน้องแบบนี้ เป็นปลัดกระทรวงต่อไปอีกหรือไม่
.
ถ้าไม่มีการดำเนินการใดๆ ผมก็ค่อนข้างจะกังวลว่า พฤติกรรมในลักษณะนี้ จะถูกผลิตซ้ำแล้ว ซ้ำอีก จนข้าราชการกระทรวงมหาดไทย จะไม่เหลือกำลังใจในการทำงาน”
‘ผมอยากจะอธิบายให้ท่านปลัดฯ เข้าใจให้ถูกต้องนะครับว่า จุดที่อุปสงค์ = อุปทาน เขาเรียกว่า จุดดุลยภาพ (Equilibrium) ซึ่งเกิดขึ้นได้ในทุกตลาดครับ ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดผูกขาด (Monopoly) ตลาดผู้ขายน้อยราย (Oligopoly) หรือตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด (Monopolistic competition) ก็ล้วนมีจุดดุลยภาพนะครับ การมีจุดดุลยภาพ ที่ อุปสงค์ = อุปทาน ไม่ใช่เครื่องบ่งชี้ของตลาดแข่งขันสมบูรณ์นะครับ’ นายวิโรจน์ สอนมวยปลัดมหาดไทย
.
ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ ต้องมีองค์ประกอบ ดังนี้ครับ
1. มีผู้ขาย และผู้ซื้อเป็นจำนวนมาก จนไม่มีใครสามารถกำหนดราคา และปริมาณสินค้าในตลาดได้
.
2. สินค้ามีลักษณะเหมือนกัน (homogeneity) สามารถทดแทนกันได้อย่างสมบูรณ์
.
3. ผู้ซื้อ และผู้ขายทุกรายเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของตลาดได้อย่างครบถ้วน เท่าเทียมกัน
.
4. สามารถเคลื่อนย้ายปัจจัยการผลิต และสินค้าได้อย่างเสรี
.
ฝากท่านปลัดฯ ด้วยครับ ท่านจะได้ไม่ไปพูดผิดๆ ในเวทีอื่นอีกน่ะครับ
.