นายกฯ สั่งเด้ง “อธิบดีกรมอุทยานฯ” เปิดทางสอบ คดีเรียกเงิน แลกแต่งตั้งโยกย้าย

“วิษณุ” เผย นายกฯ สั่งเด้ง “อธิบดีอุทยานฯ”เปิดทางสอบ คดีเรียกเงิน แลกแต่งตั้งโยกย้าย พร้อม แจงอำนาจการแต่งตั้ง อธิบดีกรมฝนหลวงฯ เป็นอำนาจของ รมว.เกษตรฯ

วันที่ 28 ธ.ค.2565 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจับกุม นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อมีการแจ้งเบาะแสต่อ ป.ป.ช. และป.ป.ช.ได้รายงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ ปปง. ปปท. และ ศอตช. นำไปสู่การจับกุม หลักฐานไม่สามารถพูดได้ว่า 100% ซึ่งขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ลงนามให้เอาตัวมาช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดี และให้เจ้าหน้าที่สืบสวนได้สะดวก เรียบร้อย ไม่มีข้อครหา คำสั่งมีผลตั้งแต่วันนี้ ส่วนจะถึงขั้นให้พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ก่อนหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า การจะปลดออก ไล่ออกต้องดำเนินการสอบทางวินัย และมีข้อมูลชัดเจนมากกว่านี้ แต่ขณะนี้เป็นการเอาตัวออกมาก่อน ถือเป็นการลงโทษไปแล้ว 50%

นอกจากนี้นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีปัญหาการตั้งอธิบดีกรมฝนหลวง และการบินเกษตรในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ (27 ธ.ค.) ว่าเป็นเรื่องธรรมดาในการประชุม ที่จะมีการทักท้วงรวมไปถึงมีการตั้งข้อสังเกต ซึ่งก็เคยเกิดขึ้นเสมอ ซึ่งในครั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตถึงรายชื่อหนึ่งที่มีการนำเสนอมา ซึ่งรัฐมนตรีว่าการผู้เป็นเจ้าของเรื่องไม่ได้เข้าร่วมการประชุม มาเพียง นายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรฯ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญขา มีสิทธิที่จะทักท้วงเป็นธรรมดา เพื่อที่จะไปหารือกับรัฐมนตรีต่อไปเมื่อถามถึงอำนาจในการแต่งตั้งเป็นของใคร นายวิษณุ กล่าวว่า ปกติเป็นของรัฐมนตรีว่าการ เพราะเมื่อมีการตั้งรัฐมนตรีช่วย จะมีการแบ่งงานให้ทำ แต่จะยกเว้นเรื่องการบริหารงานบุคคลเช่นเดียวกับ นายกรัฐมนตรี ที่งดเว้นการบริหารงานบุคคล เมื่อมอบหมายงานให้กับรัฐมนตรี ทุกอย่างก็จะกลับขึ้นไปที่นายกรัฐมนตรีฉันใด รัฐมนตรีว่าการมอบงานให้รัฐมนตรีช่วยอำนาจ ก็จะกลับไปที่รัฐมนตรีว่าการฉันนั้น ซึ่งเรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการเป็นผู้ลงนามและส่งเรื่องเข้ามาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จึงต้องยึดถือตามนั้น เว้นแต่เปลี่ยนใจขอดึงกลับ แต่บังเอิญรัฐมนตรีว่าการไม่มา และติดต่อไม่ได้ จึงเกิดความลังเลว่าจะทำอย่างไร