“ผู้กองมาร์ค” ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช อดีต สส.กทม. ทิ้งเพื่อไทย!! ซบพลังประชารัฐ สู้ศึกเลือกตั้ง มั่นใจคว้าชัยจัดตั้งรัฐบาล
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กทม. เขต 7 บางซื่อ-ดุสิต พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในช่วงระยะหลังนี้ มีคนเห็นผมเข้าร่วมกิจกรรมกับทางพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตกลงตอนนี้สังกัดพรรคไหน ผมขอชี้แจงว่า หลังจากผมได้รับคำเชิญจากผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ และได้ศึกษานโยบายและแนวทางในการทำงานของพรรคแล้ว ผมได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะมีแนวทางในการทำงานที่เหมือนกันและพร้อมพิสูจน์ว่าเป็นพรรคที่ตั้งใจทำงานให้กับประชาชนอย่างแท้จริง โดยทางพรรคมีการพัฒนาการและปรับตัวเองให้เข้าได้กับคนทุกรุ่น เน้นเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ผมไม่เคยคิดจะเผาบ้านเก่า เพราะทุกการตัดสินใจทางการเมืองขึ้นอยู่กับอุดมการณ์ทางความคิดของสมาชิกและพรรคที่มีนโยบายแนวทางในการทำงานที่ตรงกันว่าอะไรดีที่สุดสำหรับประเทศ ซึ่งในส่วนของการย้ายพรรคก่อนเลือกตั้งใหม่นั้นเป็นเรื่องปกติของนักการเมืองที่ต้องหาบ้านที่เหมาะสม เพื่อที่จะทำงานให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด ประชาชนก็มีโอกาสได้พิจารณาใหม่ มีสิทธิเลือกผู้แทนที่สามารถทำงานให้กับพวกเค้าได้ตรงตามระบอบของประชาธิปไตย
หลายคนมีคำถามว่ามาสังกัดพรรคพลังประชารัฐแล้วจะทำอะไร ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักของผมคือจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเดิม บางซื่อ-ดุสิต เพราะผลการเลือกตั้งในปี 2562 นั้นผมแพ้คะแนนไปเพียงหลักร้อย และผมยังลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ โดยมีเสียงตอบรับที่ดีมาก และผลจากการสำรวจในการทำโพลทุกครั้ง ก็ชนะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตมาโดยตลอด และจากการที่ผมได้เสนอนโยบายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับทางพปชร. ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมถนัด และทำผลงานด้านนี้มาตลอดทั้งชีวิต โดยได้รับการรับรองจากองค์กรระดับโลกมามากมายหลายครั้ง ก็ได้รับการสนับสนุนจากทางพรรค
และที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เพียงเพื่อจะเน้นย้ำว่าไม่ใช่เพียงแค่ผมคนเดียวที่จะทำ แต่จะเป็นสมาชิกของพรรคที่จะร่วมมือร่วมใจกันทำเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชนได้อย่างยั่งยืนและถาวร ซึ่งตนเชื่อว่าหากพรรคพลังประชารัฐได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอีกครั้งและได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้า และจะสามารถ “ทำน้ำให้สะอาด คืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับคนไทยได้อย่างแน่นอน”
