เปิดใจเบื้องหลัง ส.ส.ที่ พาเหรดตบเท้า สังกัด “ภูมิใจไทย” สร้างพลังให้กลายเป็นพรรคขนาดใหญ่ และจะทะยานเป็นพรรคหลักในการเลือกตั้งครั้งหน้า ด้วย สส.ในมือไม่ต่ำหลักร้อยขึ้นไป นำหน้า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค
สามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ที่ปีนี้ย้ายถึง 3 พรรค คือ ช่วยไทยสร้างไทย สร้างฐานการเมืองที่ภาคเหนือ ก่อนจะกลับบ้านเก่าที่พรรคเพื่อไทย และล่าสุดมาปรากฏตัวที่พรรคภูมิใจไทย
“สามารถ” บอกเหตุผลที่มาลงเอยที่ภูมิใจไทย ว่า ที่ไหนที่มีความจริงใจ ที่ไหนที่มีความอบอุ่น และสามารถทำงานให้บ้านเมืองได้ เราก็มา ก็มีทางเลือกแค่นี้ เราไม่ได้คิดจะทิ้งพรรคเก่าพรรคเพื่อไทย“เราไม่ได้ทิ้งพรรคเก่า พรรคเพื่อไทยทิ้งผมเอง อยู่ดีๆ เขา (พรรคเพื่อไทย) ก็เอาคู่แข่งที่มาแข่งกันมา 20 กว่าปีมาลงแทนโดยไม่บอกไม่กล่าว เห็นเราไ่ม่มีตัวตน ทั้งที่เราทำงานให้พรรคมา 20 กว่าปี เมื่อเป็นอย่างนี้ เราต้องเลือกพรรคที่จริงใจ ให้ความอบอุ่นแก่เรา”
ขณะที่ “กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา” ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ นำดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดี พร้อมกล้่าวว่าจะลาออกจากพรรคพลังประชารัฐเพื่อลงเลือกตั้ง ส.ส.กทม.ในนามพรรคภูมิใจไทยร่วมกับ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ที่มาสมัครเข้าพรรคภูมิใจไทย เช่นเดียวกันด้านนายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่าพวกตนไม่ได้ทิ้งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่ในฐานะส.ส.กทม. เรามีโจทย์ในการทำงานคราวหน้าอยู่ที่ว่าทำอย่างไรเพื่อเราจะเป็นทางเลือกให้พี่น้องประชาชน ซึ่งเราก็ไปตีโจทย์ของประชาชน โดยเฉพาะเรื่องปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ
ซึ่งกลุ่มส.ส.กทม.ที่ย้ายมาเห็นร่วมกันว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค และผู้ใหญ่ที่ดูกระทรวงอื่นๆ ทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคม ท่านพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า 4 ปีที่ผ่านมา เป็นกำลังสำคัญให้รัฐบาล โดยเฉพาะสถานการณ์โควิดภายใต้การกำกับของนายอนุทินที่ได้รับคำชื่นชมจากองค์การอนามัยโลก ขณะที่กระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าในพื้นที่กทม. ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการดูแลความเป็นอยู่ และชีวิตที่ดีของคนกทม. ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุผลที่เราตัดสินใจที่จะมาร่วมงานพรรคภูมิใจไทยโดยจุดตั้งต้นของพรรคภูมิใจไทย การเลือกตั้งปี 2562 เข้าป้ายมาเป็นอันดับ 3 มีเพียงแค่ 51 เสียงในสภา แต่ภายหลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ พลังดูดก็เริ่มทำงาน สามารถดูด ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่ 11 คน เสียง ส.ส.ในกำมือขยับเป็น 61 เสียง กระทั่งเวลาผ่านไปพรรคภูมิใจไทยมี ส.ส.ในมือกว่า 70 เสียง
ในวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา อันเป็นวันเกิด “ครูใหญ่” เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด มี ส.ส.งูเห่าไปร่วมงานวันเกิดกว่า 28 คน ส.ส.อีสาน คู่แข่งพรรคภูมิใจไทย นินทาลับหลังว่า ภูมิใจไทยเรียก ส.ส.งูเห่าไปเช็กชื่อ ! เช่นเดียวกับอีเวนต์เปิดตัวโฉมใหม่ที่ทำการพรรคในวันที่ 16 ธันวาฯนี้ก็มีลักษณะไม่ต่างกัน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์วันนี้ หากวัดพลังพรรคใหญ่-ตัวแปรการเมือง โดยนำจำนวนตัวเลข ส.ส.ทั้งที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนี้ของแต่ละพรรค รวมกับ ส.ส.ที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละพรรค รวมงูเห่าที่ย้ายเข้า-ย้ายออก ในซีกรัฐบาล ตอนนี้มี ส.ส.รวมทั้งสิ้น 250 เสียงพรรคภูมิใจไทย ดูเหมือนมีพลังทางการเมืองมากที่สุด เพราะมี ส.ส.ในสภาที่ยังปฏิบัติหน้าที่ได้ 62 เสียง แต่เมื่อรวมกับ ส.ส.งูเห่าต่างพรรคที่ยอมลาออกจาก ส.ส.เพื่อมาเข้าพรรคภูมิใจไทย 34 คน และ ส.ส.ที่อยู่ระหว่างการหยุดปฏิบัติหน้าที่อีก 2 คน เท่ากับว่า พรรคภูมิใจไทยกำนักเลือกตั้งที่มี “ต้นทุน” ส.ส.ปัจจุบันไว้ในมือรวมกว่า 98 คน
ชณะที่ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล หากนับ ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนี้มี 85 คน ถือว่ายังมี ส.ส.มากที่สุดในฝ่ายรัฐบาล เมื่อรวมกับ ส.ส.ที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ 3 คน มีจำนวน 88 คน แต่หากเทียบต้นทุน ส.ส.จริง ๆ เหลือแค่ 88 คน ถือว่าน้อยกว่าพรรคภูมิใจไทย เช่นเดียวกับ ที่พรรคประชาธิปัตย์ เหลือ ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสภาได้ 51 คน , พรรคเศรษฐกิจไทย เหลือ ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 14 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ไป 1 คน รวมเป็น 15 คน , พรรคชาติไทยพัฒนา เหลือ ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ 12 คนขณะที่ฝ่ายค้าน มี ส.ส.ในสภารวมกัน 192 เสียง พรรคเพื่อไทย มี ส.ส.มากที่สุดในฝ่ายค้าน และมากที่สุดในสภา เพราะมี ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 123 คน แต่มีอีก 2 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่ มีงูเห่าที่ย้ายเข้ามาร่วมใหม่อีก 1 คน คือ จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ที่เคยอยู่พรรคก้าวไกล จึงรวมได้ 126 คน , พรรคก้าวไกลที่ถูกดูด ส.ส.ไป 5 คนในรอบนี้ เหลือ ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 45 คน พรรคเสรีรวมไทย โดนดูดไป 1 คน จึงเหลือ ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 10 คน
แหล่งข่าวจากพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ ภายหลังมีนักการเมืองในสังกัดร่วมร้อยคนว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคภูมิใจไทยจะมีอดีต ส.ส.ที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง 100 กว่าคน แต่ตามสถิติการเลือกตั้ง จะมี ส.ส.เก่าที่หายไปเพราะสอบตก ประมาณ 35-40% ดังนั้น จึงคาดว่า พรรคภูมิใจไทยจะได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 70-80 ที่นั่งอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า “หนู” จะไม่ทิ้ง “ราชสีห์”
“หนูก็เป็นหนูวันยังค่ำ เป็นหนูที่พร้อมช่วยถ้าราชสีห์ทำงานให้บ้านเมือง แบบนั้นก็ไปด้วยกันได้ หนูตะปบเสือไม่ได้ก็ไปช่วยราชสีห์ทำงานได้” นายอนุทิน กล่าว ย้ำคำเดิม
ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะอัพเกรดเป็น “พรรคใหญ่” หรือไม่นั้น “อนุทิน” ตอบสวนคำถามนักข่าวว่า “เราก็เป็นมานานแล้วไม่ใช่หรือครับ เลือกตั้งครั้งนี้เราส่งครบทุกเขต ต้องขอฝากอนาคตพรรคไว้กับพี่น้องทุกคน ซึ่งคนที่มาสมัครก็มีความมั่นใจ ส่วนพรรคเองก็มั่นใจในตัวของทุกคน ซึ่งสุดท้ายคนที่จะตัดสินอนาคตก็คือประชาชน” และ สำหรับ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ท่านเมตตาพวกเราเสมอ
นาทีนี้ พรรคภูมิใจไทย ทรงพลัง ขี่คอพรรคพลังประชารัฐ และ 2 ลุง ด้วยการโชว์ศักยภาพนักเลือกตั้งในคาถาเฉียดร้อยคน และ จะพุ่งขึ้นเป็นหลักร้อยแน่นอน ในการเลือกตั้งครั้งหน้า !!!