ที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินฯ ‘ศุภวุฒิ สายเชื้อ’ ชี้ ศก.ไทยปี 66 เหลือแรงขับเคลื่อนจากท่องเที่ยวตัวเดียว ขณะเครื่องยนต์ตัวอื่นๆ ลดวูบ โดยเฉพาะ การส่งออก และ กำลังซื้อในประเทศ
นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยภัทร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เปิดเผยว่า จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เข้ามาครบ 10 ล้านคน ซึ่งถือว่ามากเกินที่คาดการณ์ไว้เดิม ทำให้ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2566 ดูดีขึ้น จากโมเมนตัมของภาคการท่องเที่ยวในปี 2565 ที่จะเป็นแรงส่งไปยังปี 2566 ทำให้ในไตรมาสแรกของปีปรับดีขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่าเรื่องของภาคการท่องเที่ยวไทย เป็นเรื่องที่ต้องพูดแล้วพูดอีก เนื่องจากถือเป็นเครื่องยนต์แทบจะตัวเดียวแล้ว ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ว่าจีดีพีไทยปี 2566 จะโต 3.7% เทียบกับปีนี้โต 3.2% เพราะได้แรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก
“เครื่องยนต์ตัวอื่นเราเห็นการดรอปลงเกือบทั้งหมด อาทิ อุปสงค์ในประเทศ คาดว่าปีนี้จะโต 3.4% ปีหน้า โต 2.5% กำลังซื้อในประเทศปีนี้โต 4.1% ปีหน้าโต 2.4% ส่วนการส่งออกโต 7.4% ปีหน้าโตแค่ 1% เท่านั้น ทำให้เมื่อเทียบแล้ว เหลือการท่องเที่ยวเพียงตัวเดียวในการดันเศรษฐกิจไทยเดินหน้า รวมถึงเชื่อว่าจะเป็นตัวที่ทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัด ที่คาดว่าปีนี้จะขาดดุล 16,500 ล้านเหรียญสหรัฐ จะเกินดุลในปีหน้าได้ที่ 3,800 ล้านเหรียญสหรัฐ” นายศุภวุฒิ กล่าวนายศุภวุฒิ กล่าวว่า ความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทย คือ ภาคการท่องเที่ยวกลับมาไม่ได้ตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัย ได้แก่ 1.หากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงเยอะๆ ก็อาจทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทยได้ยากขึ้น เพราะได้รับผลกระทบจากกำไรหรือรายได้ที่ลดลงในภาพรวม 2.ประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักที่มาเที่ยวไทยจำนวนสูงมากๆ ในช่วงที่ผ่านมา หากในปี 2566 มีการตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะกลับมาเที่ยวไทย 20 ล้านคน ตามเป้าหมายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็อาจต้องมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาช่วยเติม 1-2 ล้านคนเป็นอย่างต่ำนายศุภวุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าการเปิดประเทศของจีน จะเปิดมากหรือน้อยเท่าใด เพราะประเมินนโยบายยังดูไม่ค่อยชัดเจนมากนัก แม้ขณะนี้จะดูเหมือนจีนเปิดประเทศแล้ว ผ่านการลดมาตรการคุมเข้มโควิด-19 ลง แต่การเปิดเผยตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่ลดลงอย่างมากนั้น ยังมีความแปลกอยู่ เพราะสถานการณ์ในตอนนี้จำนวนผู้ติดเชื้อควรจะติดเชื้อมากขึ้น ทำให้ข้อมูลที่เปิดเผยออกมาอาจผิดเพี้ยนไป ซึ่งหากในระยะถัดจากนี้ จีนพบผู้เชื้อเพิ่มขึ้น หรือเกิดมีผู้เสียชีวิตมากขึ้นอีก ก็อาจกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มข้นขึ้นได้ ทำให้การเปิดประเทศของจีนไม่ราบรื่น เป็นการเดินหน้า 2 ก้าว ถอยหลังก้าวครึ่ง ซึ่งไทยก็มีปัญหาเพิ่มขึ้นอีก ตรงที่จีนเป็นประเทศที่เป็นผู้ซื้อสินค้ารายใหญ่ที่สุดของไทย และก็การนำเข้าของจีนในเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ก็ค่อนข้างน่ากังวล เพราะลดลงไปค่อนข้างมาก
นายศุภวุฒิ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 เป็นต้นไป ถือเป็นเดือนที่เข้าสู่ช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแทบไม่มาเที่ยวไทยเลย ทำให้เศรษฐกิจจะชะลอตัวลง โดยภาพเศรษฐกิจไทย ไตรมาสที่ต้องระมัดระวังมากจริงๆ จึงเป็นไตรมาส 2-3 ปี 2566 เพราะจะเป็นไตรมาสที่ทุกอย่างชะลอตัวลง ทั้งภาคการท่องเที่ยวและภาคการส่งออก นอกจากนี้ ยังมีประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมืองรออยู่อีกมาก เพราะกว่าจะเกิดการเลือกตั้งก็เดือนพฤษภาคม จัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จคงเป็นเดือนมิถุนายน 2566 ซึ่งหมดไตรมาส 2 ไปแล้ว ทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง ส่งผลต่อทิศทางการลงทุน เพราะต้องรอนโยบายที่ชัดเจนในการเดินหน้าตาม.