“นิพนธ์” มั่นใจ! ศึกเลือกตั้งปี 66 พรรคปชป. จะได้ ส.ส.ภาคใต้ 35-40 เก้าอี้

รองหัวหน้าพรรคปชป. มั่นใจ เลือกตั้งส.ส.ปี 66 ภาคใต้ จะได้ 35-40 ที่นั่ง เผย มีหลายเขตคนแย่งกันลง จนต้องมีการทำโพล หาคนที่แข็งแกร่งที่สุด ซัด บางคนพอไม่ผ่านการทำโพล ก็หันมาทำลายพรรค

วันที่ 10 ธันวาคม 2565 ที่สำนักงานสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวเปิดการประชุมใหญ่สามัญสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ประจำจังหวัดสงขลา เขตเลือกตั้งที่ 1 โดยมี นายถนอมศักดิ์ แป๊ะเส้ง ประธานสาขาพรรค พร้อมด้วย นายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้สมัคร ส.ส.พรรคปชป.เขตเลือกตั้งที่ 1 สงขลา กรรมการบริหารพรรค สมาชิกสภา อบจ.สงขลา สมาชิกสภาเทศบาลเมืองเขารูปช้าง สมาขิกพรรค และผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสาขาพรรคปชป.เขตเลือกตั้งที่ 1 สงขลา ทั้งนี้เพื่อให้สมาขิกพรรคทุกคนได้รับทราบถึงกิจกรรมต่างๆของทางสาขาพรรคที่ได้ดำเนินการตลอดเวลาที่ผ่านมา และเลือกตั้งกรรมการบริหารสาขาพรรคแทนชุดเก่าที่ครบวาระ โดยมีพนักงานการเลือกตั้งชำนาญการ ตัวแทนผู้สังเกตุการณ์จากสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดสงขลา ร่วมสังเกตการณ์ และกล่าวทักทายผู้เข้าร่วมประชุมพร้อมทั้งชี้แจงข้อกฏหมายที่สำคัญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และบรรยายถึงบทบาทหน้าที่ของสมาชิกพรรค มีต่อสาขาพรรคนายนิพนธ์กล่าวช่วงหนึ่งว่า ในฐานะที่เป็นรองหัวหน้าพรรคดูแลสาขาพรรคประจำเขตเลือกตั้งสาขาพรรคปชป. ต้องขอขอบคุณกรรมการสาขา และสมาชิกพรรค ในรอบปีที่ผ่านมาที่ได้ข่วยทำกิจกรรมของสาขาพรรคด้วยดีตลอดมา ในนามตัวแทนพรรคปชป.จึงต้องขอขอบคุณ เพราะพรรคอยู่ได้ด้วยความเข้มแข็งเพราะสาขาพรรค ผู้แทนพรรค สมาชิกพรรค เราจึงอยู่ได้ตลอด 76 ปี เข้าปีที่ 77 ซึ่งพรรคปชป.เป็นการเมืองเดียวที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เป็นพรรคของมวลสมาชิกทุกคน นี่คือความต่าง ความไม่เหมือนจากพรรคการเมืองอื่นๆ จึงขอให้มั่นใจในพรรคปชป. ตั้งแต่นี้ไปจะเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง การเลือกตั้งที่จะ ซึ่งกกต.ประกาศแล้วว่าถ้าครบวาระ ในวันที่ 7 พ.ค. 66 จะเป็นวันเลือกตั้ง คืออยู่ครบวาระ 23 มี.ค. ซึ่งตนขอยืนยันว่าภาคใต้คราวที่ แล้ว ส.ส. 50 คนเราได้ 22 คน ถือว่าเราเสียหายมาก โดยการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะถึงนี้ ในฐานะที่เป็นผอ.เตรียมการเลือกตั้งของพรรคคาดว่าพรรคจะได้ 35 – 40 ที่นั่ง เพราะครั้งนี้ปชป.ประกาศสู้เต็มที่ ในทุกเขตเลือกตั้งโดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนใต้ คนไทยในมาเลเซีย ที่ตนได้เดินทางไปพบปะกับพี่น้องในมาเลเซียเครือข่ายต้มยำกุ้งที่มีพื้นเพอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาในจชต. นั่นคือแก้ความยากจนในพื้นที่ให้มีอาชีพ มีรายได้ และ มีงานทำ เพราะ ปชป.เข้าใจและเข้าถึงในเรื่องนี้ตนจึงได้นำคณะเดินทางไปพบเครือข่ายต้มยำกุ้งที่ประเทศมาเลเซียและพบกลุ่มที่มีความคิดเห็นที่ต่างกันในหลายเรื่อง เพื่อนำไปสู่การร่วมกันแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในพื้นที่ และได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่งประชาธิปัตย์เป็นของคนทุกรุ่น เราได้ทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ ผสมผสานกันลงสมัครในครั้งนี้ พร้อมกับรับฟัง การร่วมคิด ร่วมทำ เพื่อเอามาแก้ปัญหาบ้านเมือง นี่คือปชป.ที่บอกว่าทุกคนเป็นเจ้าของพรรค จึงเรียนว่าอย่าตกใจกับกระแสที่พรรคมีคนออกไม่หยุด ซึ่งผมเข้าใจในสัจธรรมนี้ดี ย่อมมีทั้งคนเข้าพรรค และคนที่จะออกจากพรรค เพราะเป็นธรรมดาที่ตัวแทนของพรรคในการลงสมัครรับเลือกตั้งมีได้แค่เขตละคนเดียว ตามที่กฎหมายกำหนด ปัญหาที่เกิดขึ้นคือมีคนมาขอเป็นผู้สมัครในแต่ละเขตเกิน 1 คน จึงต้องนำไปสู่การทำโพล เมื่อโพลสำรวจว่าพี่น้องประชาชนไม่ได้ให้ความนิยมจึงไม่ได้รับการคัดเลือกให้ลงสมัครในนามพรรค สิ่งนี้จึงเป็นที่มาของการลาออกจากสมาชิกพรรค และเหตุนี้ก็แสดงให้เห็นความจริงอีกอย่างหนึ่งว่า ที่มีกระแสข่าวว่าปชป.มีแต่คนออก ไมจริง จะเป็นจริงได้อย่างไรในเมื่อแต่ละเขตมีคนขอลงสมัครมากกว่า 1 คน จนนำไปสู่การทำโพล และที่ออกไปคือไม่มีพื้นที่ให้ลงสมัครเพราะประชาชนไม่ให้ความนิยมตามโพลสิ่งสำคัญขอย้ำว่าพรรคปชป.ให้โอกาสทุกคนที่มีอุดมการณ์เดียวกับพรรคปชป. เพราะพรรคปชป.ทำอะไรมามาก เฉพาะในยุคท่านชวน กับนโยบายของนมโรงเรียนในปี 2536 เรื่องของอาหารกลางวัน กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เรียนฟรี ในสมัยท่านอภิสิทธ์ ในรอบนี้เราให้ความสนใจในเรื่องของการศึกษา เพราะ ปชป.คิดในเรื่องของการสร้างคน ให้กับพี่น้องประชาชน โครงการอาหารเช้า โครงการเรียนฟรีด้าน เทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นต้น วันนี้จึงหวังว่าพวกเราสมาชิกพรรคปชป.จะมาร่วมกันขยายฐานพรรคปชป.ให้มีความแข็งแรงยิ่งขึ้น และแต่นี้ต่อไปจะเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง จึงอยากให้สมาขิกพรรคมั่นใจในกรรมการบริหาร ผู้บริหารพรรค และนโยบายของพรรคปชป. ซึ่งพรรคจะปรับโฉมในเรื่องการศึกษาโดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้ จึงขอให้ทุกคนมั่นใจ และร่วมเดินหน้าไปกับพรรคปชป. ด้วยการหาแกนนำพรรค หาสมาชิกพรรคใหม่เข้ามาเสริม เพื่อสร้างเครือข่าย นี่คือสิ่งที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีรากฐานของความเข้มแข็ง และมีความมั่นคง นำพรรคไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งร่วมกัน