คสช. เผย 15 เม.ย.ยึดรถเมาแล้วขับกว่า 416 คัน พร้อมผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 45,144 คน รวม 4 วัน 5,212 คัน ดำเนินคดีแล้วกว่า 3 แสนคน
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยสถิติการตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ในวันที่ 15 เมษายน 2560 พบรถจักรยานยนต์กระทำความผิด 88,715 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดไว้ 1,336 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 53,758 คน
สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 87,685 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้ 1,107 คน ยึดรถยนต์ 416 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 45,144 คน
ขณะที่ 4 วันที่ผ่านมา ตั้แต่ วันที่ 11-15 เมษายน 2550 เจ้าหน้าที่ตรวจพบการกระทำความผิดในส่วนรถจักรยานยนต์ 250,004 ครั้ง รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ 216,590ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการ ดื่มไม่ขับไว้แล้ว 5,212คัน (แยกเป็นจักรยานยนต์ 3,969 คัน และรถยนต์ 1,243 คัน) และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รถจักรยานยนต์ 164,584 คน รถโดยสารสาธารณะ และรถยนต์ส่วนบุคล 136,841 คน ทั้งนี้ รถที่ถูกควบคุมไว้นั้น เจ้าหน้าที่ได้ดูแลและจัดหาสถานที่เก็บรักษาไว้อย่างเหมาะสม ซึ่งเจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับคืนได้ตามเวลาที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม คสช.ขอให้ประชาชนที่เดินทางกลับได้เตรียมความพร้อมด้านสุขภาพ ตรวจสอบยานพาหนะ มีสมาธิในการขับขี่ ปฏิบัติตามกฎจราจร และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ รวมถึงแบ่งปันเส้นทางให้กับผู้ใช้ถนน เพื่อความปลอดภัย ตลอดการเดินทางของทุกคน
คสช.กำชับจนท.เร่งระบายรถให้คล่องตัว
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ประชาชนจำนวนมากได้ทยอยเดินทางกลับจากการเฉลิมฉลองและท่องเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ ทำให้การสัญจรในเส้นทางต่างๆ เริ่มมีความหนาแน่นเป็นระยะและคาดว่าจะหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ทาง คสช. จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปรับการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้ทันต่อสภาพการใช้รถใช้ถนน ทั้งในสายหลัก สายรอง และทางลัด มีการเปิดพื้นที่ผิวการจราจรเพิ่มช่องทางพิเศษ เพื่อเร่งระบายการจราจรตามเส้นทางให้คล่องตัวที่สุด ควบคู่ไปกับการดูแลและอำนวยความสะดวกประชาชนด้านต่างๆตลอดเส้นทาง และยังคงเข้มงวดในมาตรการสร้างความปลอดภัย “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ”