“นิพนธ์” นำทีม ปชป. เยี่ยมชม “เครือข่ายต้มยำกุ้ง” หนุน จชต.เป็นฮับ “ฮาลาล”

“นิพนธ์ บุญญามณี” นำทีม ปชป.เยี่ยมเครือข่ายร้านอาหาร “ต้มยำกุ้ง” ในประเทศมาเลเซีย เตรียมขยายผล “ยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางอาหาร” พร้อมหนุนพื้นที่ชายแดนใต้ เป็น”ศูนย์ฮาลาลของเอเชีย”

วันที่ 3 ธ.ค. 65 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยทีมยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางอาหาร ชายแดนใต้ เดินทางไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อเยี่ยมเยียนและประสานการแก้ไขปัญหาจากการทำงานในต่างประเทศของเครือข่ายต้มยำกุ้งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่มี จำนวนกว่า 5,000 ร้าน และมีคนไทยที่มาทำงานในเครือข่ายต้มยำกุ้ง กว่า 150,000 คน โดยได้พบปะตัวแทนเครือข่ายฯ ได้แก่ นายโจ ฮารี ประธานชมรม Ukhuwah ( เครือข่ายต้มยำกุ้งขนาดใหญ่) และเครือข่ายต้มยำกุ้งในมาเลเซีย พร้อมทั้งมีการพูดคุยและสร้างความเข้าใจในยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางอาหาร ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศไว้นายนิพนธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการเดินทางมาเยี่ยมเยียนเครือข่ายต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนไทยที่เดินทางมาทำงานหารายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว เป็นการนำรายได้เข้าประเทศในแง่ของตัวเลข GNP ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ติดตามการเคลื่อนไหวภาคเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้มาตลอดและได้ทราบถึงปัญหาและอุปสรรคในการทำงานของคนไทยในประเทศมาเลเซีย ซึ่งหลักๆภาครัฐต้องเร่งแก้ไขปัญหาในเรื่องของการอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปทำงาน เช่น การออก passport การออก work permit เพื่อการประกอบธุรกิจและแรงงานที่เดินทางไปทํางานในร้านอาหาร เป็นต้น โดยในแต่ละปีคนไทยที่มาทำงานที่นี่สามารถส่งรายได้กลับไปยังครอบครัวที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยปีละหลายพันล้านบาท ก่อเกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจต่อจังหวัดชายแดนภาคใต้และประเทศจำนวนมากพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศยุทธศาสตร์ “ความมั่นคงด้านอาหาร” ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งยุทธศาสตร์นี้จะนำไปสู่การพัฒนาด้านต่างๆและยกระดับคุณภาพชีวิตและรายได้ของประชาชนในพื้นที่ อย่างในเรื่องผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ นั้นสามารถนำไปต่อยอดขยายผลป้อนเข้าสู่ตลาดชาวมุสลิมในอาเซียนและเอเชียที่มีหลายล้านคน โดยต้องเร่งส่งเสริมการผลิตที่ตรงตามความต้องการของตลาดที่มีความแตกต่างกันและสิ่งสำคัญคือยกระดับคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานฮาลาลจริงๆและตั้งเป้าให้สามจังหวัดชายแดนใต้เป็นศูนย์ฮาลาลของเอเชียให้ได้ และสำหรับเครือข่ายต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซียนี้ถือเป็นกลุ่มคนไทยที่มีสำคัญที่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ประกาศยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางอาหารไปแล้วต้องสร้างความเข้าใจ และทำให้ทุกคนเห็นช่องทางของการต่อยอดในเชิงธุรกิจที่คนไทยทุกกลุ่มจะได้ประโยชน์จากยุทธศาสตร์ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันประเทศมาเลเซียยังพึ่งพาการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น อาหารทะเล พืช ผลไม้ จากประเทศไทย รวมทั้ง เครือข่ายต้มยำกุ้ง ยังต้องการวัตถุดิบในการประกอบอาหารจากประเทศไทยอีกจำนวนมาก และอย่างน้อยก็ทำให้คนในพื้นที่ชายแดนใต้มีทางเลือกในการประกอบอาชีพที่เพิ่มมากขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับ การเดินทางของรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และคณะ จะมีการเยี่ยมเยียนคนไทยกลุ่มอื่นๆพร้อมทั้งร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ในประเทศมาเลเซียระหว่างวันที่ 2-5 ธ.ค.นี้