สร้างอนาคตไทย ลั่น ปักธง นราธิวาส ชู “ยาวอหะซัน” รับใช้พี่น้องปลายด้ามขวาน

“สมคิด-อุตตม-สนธิรัตน์” บุกยึดบ้านใหญ่นราธิวาส “พ่อ-ลูก ยาวอหะซัน” ประกาศเปิดตัวร่วม “สร้างอนาคตไทย” พร้อมกวาดนักการเมืองท้องถิ่นกว่า 30 ชีวิตเข้าซบ ด้าน “กูเซ็ง” แฮปปี้นโยบาย ลั่นสอท.เกิดแน่ ที่ “เมืองนราฯ”

วันที่ 1 ธ.ค. 2565 ที่โรงแรมอิมพีเรียล อ.เมือง จ.นราธิวาส พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) นำโดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค และ ประธานนโยบายพรรค นายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าพรรค และ โฆษกพรรค นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค และ ประธานภาคกลาง นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ กรรมการบริหารพรรค และ น.ส.โชนรังสี เฉลิมชัยกิจ รองโฆษกพรรค ร่วมเปิดตัว ผู้สมัคร ส.ส. นราธิวาส ได้แก่ นายวัชระ ยาวอหะซัน ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 1 นายสารี สะมะแอ เขต 2 นายอามีน โต๊ะนากายอ เขต 4 พร้อมเปิดเวทีปราศัย โดยมี นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ยกทัพนักการเมืองท้องถิ่น สจ.นราธิวาส กว่า 30 คน พร้อมพี่น้องประชาชนชาว เข้าร่วมงานเกือบ 1,000 คนดร.สมคิด กล่าวว่า ตนมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ 3 ประการ คือ 1.เพื่อขอบคุณที่นราธิวาส ทีมงานนายกูเซ็ง ที่ให้เกียรติพรรคนำเสนอตัวว่าจะร่วมมือและช่วยเหลือ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้อย่างไร 2. มาเพื่อให้กำลังใจ ตนรู้ว่าชีวิตมันลำบาก คนที่ไม่เคยลำบากไม่รู้สึก คนที่ไม่เคยจนก็ไม่เคยรู้สึก ตนมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เพราะครอบครัวร่ำรวย เคยอาศัยอยู่ในห้องแถว 2 ชั้น ที่ต้องอยู่กัน 24 คน ถ้าตนไม่ได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลคงไม่มีวันนี้ ความจนไม่ใช่เรื่องการขัดสนรายได้ แต่มากกว่านั้น ความยากจนนำไปสู่การบ้านแตกสาแหรกขาด พ่อแม่ต้องดิ้นรนหางานทำ ลูกไม่มีคนเลี้ยง สุดท้ายก็ติดยาเสพติด ทุกอย่างคือหายนะ สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือทำอย่างไรให้คนไทยหายจน โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดภาคใต้ และ 3.ตนมาเพื่อสัญญา คนอย่างตนไม่ว่าจะสัญญากับใครว่าจะทำอะไร จะรักษาคำพูดเสมอ ถ้าตนสัญญาว่าจะช่วยท่านไม่ต้องมีใครมาเตือน ตนจะคิดตลอดเวลาว่าทำให้ท่านหรือยัง ทำดีที่สุดหรือยัง
ตนอยู่การเมืองตั้งแต่ ปี 2543 ผ่านรัฐบาลมา 2 ยุค 2 สมัย ก่อนวางมือตนสัญญาว่าต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ดีขึ้นให้ได้ สไตล์การทำงานของตนไม่ใช่การนั่งโต๊ะประชุม ถ้าตนนั่งโต๊ะประชุมหมายความว่า คนที่เรียกมาต้องเกี่ยวข้องกับงานที่ตนทำ และตนจะจี้ถามทุกวัน ถ้าไม่ทำตนจะทุบ โดยสมัยรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีการตั้งคณะกรรมการ 5 ชุด มีรองนายกรัฐมนตรีดูแลรับผิดชอบทั้ง 5 คณะ มีข้าราชการเต็มไปหมด แต่ตนไม่เคยเรียกประชุมแม้แต่ครั้งเดียว เพราะไม่เชื่อว่าการที่มีตัวแทนข้าราชการมานั่ง แล้วเอาวาระที่ข้าราชการคิดมาเสนอบนโตํะ จากนั้นในสัปดาห์หน้าก็กลับมาใหม่ การทำแบบนี้ชาติหน้าก็ไม่มีทางแก้ปัญหาเมืองไทยได้ แต่ตนจะตามงานกับคนที่เกี่ยวข้อง คนที่รับผิดชอบสำหรับประเทศไทยวันนี้ใครบอกดีขึ้น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ที่เกิดขึ้นก็ต่ำเตี้ย รวยอยู่กี่คน มีอุตสาหกรรมไหนแข่งขันได้บ้าง หากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นชาติมุสลิมแล้ว จะเห็นได้ว่าประเทศอินโดนีเซียมีความโดดเด่นมาก พระเอกในจี 20 เป็นมหาอำนาจมุสลิม เขาวางตัวเองเป็นประเทศตัวกลางประสานความขัดแย้ง ส่วนประเทศเวียดนาม อุตสาหกรรมชั้นเลิศต่างเข้าไปลงทุนที่นั่นหมด ซึ่งต่างจาก 4-5 ปีที่ผ่านมา เพราะเขาเอาจริงทั้งความทุ่มเทของนักการเมือง และผู้นำประเทศที่ไม่ใช่คิดแค่อยู่รอด ถ้าคุณคิดต่ำเตี้ยมองเหตุการณ์ไม่ออกคุณจะเป็นผู้นำทำไม ถ้าจะเป็นผู้นำต้องมีความคิดแจ่มใส มีความมั่นใจในตนเอง พร้อมทุ่มเท การจะรอดหรือไม่รอดทางการเมืองเป็นเรื่องเล็ก ไม่เป็นนายกฯ ไม่ใช่จะตาย แต่เป็นนายกฯ แล้วทำอะไรไม่ได้เป็นไปทำไม บ้านเมืองเราเป็นอย่างนี้ สนใจอย่างเดียวรอบหน้าจะได้เป็นรัฐบาลหรือเปล่า จะอยู่กับใครดี ทางโน้นทางนี้จะให้เท่าไหร่ นี่หรือคือการเมืองที่เราจะฝากความหวัง
สำหรับนราธิวาสเป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุดในประเทศไทย โดยหลักการของแนวคิดในการพัฒนา มีแนวทางหลักคือ 1.ต้องเคารพความคิด ต้องภูมิใจในพื้นฐานวัฒนธรรมของตัวเอง สิ่งที่จะเข้าไปช่วยและพัฒนาต้องเป็นการเติมในสิ่งที่ขาด โดยเฉพาะความสามารถในการเลี้ยงชีพตัวเอง และครอบครัว 2.ปรับโครงสร้างการผลิต เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ เพราะการที่แรงงานอยู่ในภาคการผลิตที่อ่อนแอ ทำให้เกิดการตกงาน ถูกกดค่าแรง 3.ต้องมีแรงจูงใจพิเศษ เพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่พิเศษ เพื่อดึงดูดการลงทุน อย่าเรียกที่นี่ว่านิคมอุตสาหกรรม 3 จังหวัดภาคใต้จะต้องเป็นพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อให้หลุดพ้นจากการบริหารงานของราชการ หลุดพ้นจากองค์กรที่ทำงานแบบมีข้อจำกัด จากที่ตนได้ศึกษาการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของมาเลเซีย ได้ให้อำนาจคณะกรรมการในการสร้างแรงจูงใจ
นายสนธิรัตน์ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ทางการเมืองอีกครั้ง และ จ.นราธิวาส ที่บ้านใหญ่นราธิวาส ตัดสินใจเดินหน้าทางการเมือง จ.นราธิวาส คือพื้นที่เป้าหมายของ พรรคสร้างอนาคตไทย เราไม่ได้ต้องการแค่ส.ส. แต่ต้องการคนมาร่วมสร้างบ้านเมือง วันนี้นายกูเซ็ง ตัดสินใจจับมือกับพรรคสร้างอนาคตไทย ต้องการร่วมสร้างประเทศไทยกับเรา ระยะเวลากว่า 1 ปีที่ได้มาปรึกษาหารือกับนายกูเซ็ง ซึ่ง ความสัมพันธ์นี้ไม่ใช่แค่ 1 ปีแต่เกิดขึ้นมายาวนาน ต้องขอขอบคุณ นายวัชระ ยะวอหะซัน และ นายวัชระ กรรณิการ์ ทั้งสองมีความสัมพันธ์อันดีกันมาอย่างยาวนาน นำพาให้พวกเรามาพบกันตั้งแต่ตอนทำการเมืองครั้งที่แล้ว ซึ่งนับว่าตนได้รู้จักกันมา 3-4 ปีแล้ว
นายกูเซ็ง ต่อสู้เพื่อชาวนราธิวาส มาอย่างยาวนาน ถ้าตนเป็นคนนราธิวาส ไม่มีอะไรจะภูมิใจไปกว่าการมีนักการเมืองที่ดูแลเรามากว่า 30 ปี วันนี้เรามาเพื่อประกาศความร่วมมือ ศึกการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ใช่ศึกเลือกส.ส. แต่บ้านเมืองวันนี้ เดินมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ ไม่มียุคไหนที่พรรคการเมืองไทยแตกกันมากเท่ายุคนี้ แตกไม่รู้กี่พรรค แตกกันจนงง ไม่รู้ว่าวันนี้การเมืองเล่นอะไรกันอยู่ แต่สิ่งเหล่านี้ ถือว่าเป็นหน้าที่ของพรรคสร้างอนาคตไทย ที่ต้องรวบรวมคนเก่งเข้ามาร่วมสร้างบ้านเมือง เพราะการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเลือก ส.ส. แต่ต้องเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นพวกตนจึงเชิญ ดร.สมคิด มาเป็นประธานพรรค เนื่องจากไม่มียุคไหนที่บ้านเมืองลำบากยากแค้นเป็นหนี้สิน ทำมาหากินไม่ได้เท่ายุคนี้ เราไม่โทษใคร เพราะโควิดทำเราแย่ 3 ปีเต็มๆ ต่อด้วยสงครามรัสเซีย ยูเครน ค่าไฟที่เพิ่มสูงขึ้น น้ำมันแพง
“ผมมา จ.นราธิวาสวันนี้ เพื่อต้องการบอกพี่น้องว่าวันนี้ไม่ใช่แค่การเลือก ส.ส. แต่วันนี้ยิ่งใหญ่กว่าอดีต เพราะพี่น้องกำลังจะเริ่มจุดเปลี่ยนของประเทศไทย ต้องมองว่าใครจะเป็นนายกฯ เป็นคนมีความสามารถ มีประสบการณ์นำพาพี่น้องให้พ้นความยากลำบากไปให้ได้ ศึกใหญ่ครั้งนี้คือศึกปากท้องของพี่น้องทั้งประเทศ ต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ไม่ใช่แค่การเล่นละคร หรือการรักษาดุลอำนาจทางการเมือง ต้องออกมาสร้างความหวัง และรับใช้พี่น้องประชาชน พรรคสร้างอนาคตไทยภูมิใจที่นายกูเซ็ง ตัดสินใจร่วมงานกับพรรค ทั้งที่ท่านมีคนมาชวนไปร่วมงานทุกพรรคการเมือง วันนี้ผู้นำของท่านคือนายกูเซ็ง ตัดสินใจมาร่วมสร้างบ้านสร้างเมืองกับพรรค ผมขอร้องนายกูเซ็งว่าขอให้พรรคสร้างอนาคตไทย มีจ.นราธิวาสเป็นบ้านใหญ่ของ 3 จังหวัดภาคใต้ และการปักธงจากจ.นราธิวาสจะเป็นการปักธงตัวแทนพี่น้องมุสลิม และไทยพุทธไปสู่ จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา เช่นกัน เราอยากเห็น จ.นราธิวาส เป็นเมืองหลวงของพรรคสร้างอนาคตไทย ของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และพี่น้องจะเป็นส่วนร่วมของการสร้างเมืองหลวงพรรคสร้างอนาคตไทยบน 3 จังหวัด” นายสนธิรัตน์ กล่าวย้ำว่า
พรรคสร้างอนาคตไทย มี 2 นโยบายที่อาสาจะทำ คือ 1. ตนจะทำให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่พิเศษด้านพลังงาน จะกลับมาทำโรงไฟฟ้าชุมชนที่เป็นของพี่น้อง 3 จังหวัด ได้มีไฟฟ้าที่เป็นของตัวเอง ทั้งนี้หากเราเป็นรัฐบาลจะติดโซล่าเซลล์ทุกหลังคาบ้าน และจะแก้กฎหมายให้พี่น้องภาคใต้ใช้โซล่าเซลล์ ซึ่ง 3 จังหวัดชายแดนใต้ จะต้องเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ ไม่ใช่ภายใต้ความมั่นคง และ 2. พรรคจะทำให้ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จ.สตูล และสงขลา เป็นศูนย์สินค้าฮาลาล ถึงเวลาที่เราจะได้เป็นเจ้าของสินค้าฮาลาล