“อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ประชุม “ภาคอุตสาหกรรมกัญชา” ยัน ไม่กลับเป็นยาเสพติด ขอดำเนินการถูกกฎหมาย มั่นใจ จะเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่
วันที่ 28 พ.ย. 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหารฯ ได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการสมาคมอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชา โดยระหว่างการประชุม นายอนุทิน ระบุว่า ที่ทุกท่านเป็นห่วงกันคือเรื่องของการเมือง แต่ไม่มีปัญหา เพราะกระทรวงสาธารณสุข เราทำทุกอย่างรอบคอบ ดำเนินการมาอย่างถูกต้อง ปลดล็อกมาแล้ว ก็ออกประกาศมาควบคุม พ.ร.บ.ยังไม่ผ่าน ก็มีประกาศมารองรับ
กับเรื่อง พ.ร.บ.ตอนแรกคิดว่าไม่มีปัญหา เพราะผ่านวาระแรก ด้วยคะแนนท่วมท้น นั่นแปลว่า ส.ส.แทบทุกพรรค เห็นตรงกันว่าควรมีกฎหมายมาดูแลการใช้ จากนั้น ได้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาเพื่อปรับปรุงร่างฯ ให้ดีขึ้น ซึ่งคณะกรรมาธิการ ก็มาจากทุกพรรค แต่เมื่อเข้าสภา บางพรรคกลับไม่เห็นด้วย ไม่ยอมให้พิจารณาเลย ขอย้ำว่าในร่างกฎหมาย ไม่ได้บอกให้ไปใช้เพื่อนันทนาการ เรามุ่งใช้ทางการแพทย์ และเศรษฐกิจ
เรื่อง พ.ร.บ.กัญชา อาจทำให้ท่านไม่สบายใจ แต่ทุกท่านที่มาอยู่ตรงนี้ ตนมั่นใจว่าทำถูกกฎหมาย เรามีเงื่อนไข เช่น ทำเป็นผลัตภัณฑ์ขึ้นชั้นวางจำหน่าย ต้องขอ อย. เป็นต้น ถ้าท่าน จะปลูกเป็นไร่ เป็นวิสาหกิจชุมชน ท่านก็มาขึ้นทะเบียนกับ กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ซึ่งมอบอำนาจให้ สำนักงาน สสจ. ทั่วประเทศ ช่วยกันอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เราสนับสนุนให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจอยู่แล้ว แต่ต้องทำตามที่กำหนด และเชื่อว่าที่เรากำหนด ท่านที่มาหารือกันวันนี้ ทำแล้วทั้งนั้น เมื่อมีเจตนารมย์ที่ดี ไม่ได้มีความประสงค์ จะไปสร้างอันตรายกับสังคม เพียงทำให้ถูกต้อง ท่านไม่ต้องกังวลเลย
ภาคผู้ประกอบการ เสียงของท่านมีความหมาย เพราะฝั่งรัฐบาล ข้าราชการที่ผลักดันนโยบาย ฝ่ายการเมืองที่สู้ เขาสู้เต้มที่ ล่าสุด มีการประชุม วิปรัฐบาล มติของที่ประชุมชัดเจนให้ลงมติตามเสียงข้างมากของคณะ กมธ.กัญชา คือผลักดันเข้าสภา ขอให้ยอมรับกัน แต่ถ้ามีการเบี้ยว มันไม่เกี่ยวกับท่าน เพราะมันมีกฎหมายใช้อยู่แล้ว คนที่เดือดร้อนไม่ใช่พวกท่าน แต่เป็นเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานยุ่งยากขึ้นบ้าง แทนที่จะแจ้งตำรวจได้เลย ก็ต้องมาแจ้งทางกระทรวงสาธารณสุขก่อน ให้ สธ. ไปแจ้งตำรวจต่อ สรุปว่าเรื่อง พ.ร.บ.มันไม่กระทบกับผู้ประกอบการที่ทำถูกกฎหมาย
“เรื่องกลับไปเป็นยาเสพติด เชื่อว่าท่านก็กังวลในเรื่องนี้ ขอย้ำว่าถ้าทำได้ มันกลับไปเป็นยาเสพติดแล้ว ซึ่งการประชุมคณะกรรมการ ปปส. ท่านประธานในที่ประชุม ก็บอกว่ามันกลับไม่ได้” นายอนุทิน กล่าว
